MWWellness อาหารช่วยรักษาอาการอ่อนล้า วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย

ศูนย์ดูแลสุขภาพ และล้างพิษครบวงจร อาหารช่วยรักษาอาการอ่อนล้า วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย

MWWellness ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาการที่ทั้งวัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงานออฟฟิศต้องเคยเจอ ใครที่มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกว่าอยากเติมพลัง บูสให้ร่างกายหายเหนื่อย ในระหว่างวัน เรามีเคล็ดลับมาบอก ซึ่งช่วยให้คุณสามารถหายเหนื่อยได้ เพียงแค่กิน อาหารบำรุงกำลัง 10 อย่างนี้!!

อาหารช่วยรักษาอาการอ่อนล้า วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย

อาหารช่วยรักษาอาการอ่อนล้า วิธีแก้อาการอ่อนเพลีย


เช็กลิสต์อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย 

ก่อนอื่นมาเช็กลิสต์กันดูว่า ร่างกายของคุณ กำลังมีอาการอ่อนเพลีย ที่ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วนอยู่รึเปล่า หากคุณกำลังมีอาการดังต่อไปนี้ … รู้สึกนอนหลับไม่สนิท ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ไม่ค่อยมีสมาธิ ความจำเริ่มไม่ดี ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดข้อ ปวดตามตัว มีอาการเจ็บคอ รวมถึงอาการปวดศีรษะ อาการเหล่าเป็นสัญญาณเตือนว่า ร่างกายคุณต้องการการพักผ่อน และต้องการพลังงาน ที่เป็นตัวช่วยในการบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย

Top 10 อาหารบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย 

1. น้ำเปล่า ไม่ต้องไปหาอะไรให้ยุ่งยากวุ่นวาย น้ำเปล่า คืออันดับ 1 ของอาหารบำรุงกำลังที่ดีต่อสุขภาพ แต่หลายคนกลับมองข้าม ไม่ให้ความสำคัญ การที่คุณเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจเป็นเพราะร่างกายขาดน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้รู้สึกไม่มีแรง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และไม่สดชื่นนั่นเอง ดังนั้น เพียงดื่มน้ำเปล่าให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ โดยในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หากอยู่ในอุณหภูมิร้อนหรือเสียเหงื่อมาก ควรดื่มในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อทดแทนปริมาณน้ำที่สูญเสียไป 

2. โยเกิร์ต นอกจากจะมีสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่ดี ที่ช่วยเพิ่มพลังให้แก่ร่างกายแล้ว โยเกิร์ตยังเป็นซุปเปอร์ฟู้ดที่ช่วยเพิ่มพลัง ให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ช่วยลดความตึงเครียด และช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้อีกด้วย แนะนำทิปส์ การกินโยเกิร์ตเพื่อบำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนล้า ให้กินช่วงเช้าของวัน เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารและขับของเสียออกจากร่างกาย 

3. ปลาแซลมอน ถือเป็นอาหารบำรุงกำลังที่คนไทยนิยมชมชอบกันอย่างมากในปัจจุบัน หันไปทางไหนก็มีแต่เมนูแซลมอน ซึ่งนั่นก็ถือว่าดีต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะในตัวปลาแซลมอนนั้น จะมีกรดไขมันจำเป็นอย่างเช่น โอเมกา 3 ซึ่งมีส่วนช่วยลดการอักเสบ ลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูง วิตามินบี 6 ไนอะซิน และไรโบปลาวิน ช่วยให้ร่างกายสดชื่น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แนะนำให้กินปลาแซลมอนในมื้อกลางวัน จะช่วยให้มีพลังทำงานตลอดช่วงบ่าย และช่วยลดความง่วง เพราะแซลมอนช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ 

4. ถั่วเปลือกแข็ง เป็นอาหารที่ทานเล่นและส่วนประกอบในมื้ออาหารที่แนะนำให้ทาน เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ในวันที่ร่างกายอ่อนล้า แนะนำให้กินถั่ว เป็นของกินเล่น เพื่อช่วยเพิ่มพลังให้ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ถั่วอัลมอนด์ วอลนัต พิสตาชิโอ พีแคน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น ที่สำคัญคือ ให้กินแบบไม่ปรุงแต่ง ไม่ผ่านความร้อน หรือไม่โรยเกลือ ไม่เคลือบน้ำตาลจะดีที่สุด

5.  เห็ด แหล่งโปรตีนจากธรรมชาติที่มีแคลอรี่ต่ำ และเป็นอาหารที่ให้แร่ธาตุสูง มีแร่ธาตุและวิตามินกว่า 15 ชนิด โดยเฉพาะธาตุเหล็ก ที่จะช่วยให้นำเอาออกซิเจนไปใช้ได้ทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วทำให้รู้สึกสดชื่นและมีพลัง

6. ผักโขม เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่มีแร่ธาตุสูง เช่น แมกนีเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์พลังงานของร่างกาย ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และหากกินเป็นประจำ จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง โดยสามารถนำผักโขม ไปทำเป็นสมูทตี้ จะได้เครื่องดื่มที่อร่อยสดชื่น และดีต่อสุขภาพด้วย

7. แตงโม เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี เหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ไลโคปีน เบตา-แคโรทีน และซิทรูลีน ซึ่งช่วยเติมความสดชื่น ลดความร้อนให้ร่างกายได้ แนะนำว่าให้กินแตงโม ในช่วงที่อากาศร้อน จะทำให้รู้สึกสดชื่น และลดความอยากอาหาร หรือขนมหวานได้

8. ไข่ อาหารคู่ครัว อุดมไปด้วยประโยชน์สารพัด โดยในไข่จะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย มีโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพิ่มความสดชื่น ทำให้ร่างกายมีแรง ใครที่รู้สึกมีอการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียเรื้อรัง แนะนำให้กินเมนูไข่ เพื่อช่วยลดอาการอ่อนล้า 

9.  มันหวาน เป็นพืชคาร์โบไฮเดรตที่มีใยอาหารสูง รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ทั้งแร่ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี วิตามินดี ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ลดความเหนื่อยล้า โดยสามารถปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย และยังช่วยในเรื่องอาการท้องผูกได้ดีอีกด้วย 

10. กล้วย  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อาหารบำรุงกำลัง ที่แสนธรรมดา แต่มีคุณประโยชน์แบบนับไม่ถ้วน เพราะกล้วยนั้น อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ไฟเบอร์ วิตามิน และคาร์โบไฮเดรต ที่มีส่วนช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย อีกทั้งยังถือเป็นแหล่งของน้ำตาลจากธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่กินปุ้บ มีแรงปั้บ และนอกจากอุดมไปด้วยประโยชน์แล้วยังช่วยทำให้อิ่มอยู่ท้องทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียได้ทั้งวันอีกด้วย

 

แม้ อาหารบำรุงกำลัง เหล่านี้จะมีประโยชน์สูง แต่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในปรับสมดุลในร่างกายพอสมควรกว่าจะฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมได้ แต่ถ้าหากใครอยากได้ตัวเร่งสปีด ที่จะช่วยให้ร่างกายกลับมามีแรง เหมือนอายุ 18 อีกครั้ง ขอแนะนำโปรแกรม Myer’s Cocktail by MW Wellness คือ การรักษาโดยให้วิตามินสารอาหารทางหลอดเลือดดำ ซึ่งประกอบไปด้วยมัลติวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด โดยการให้สารอาหาร และมัลติวิตามินในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง ต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสมรรถภาพทางร่างกาย สมอง และจิตใจ

 

ประโยชน์ที่ได้จากไมเยอร์ ค็อกเทล

  • ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย (Chronic fatigue) ปวดเมื่อยตามตัว
  • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั้งร่างกาย
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผื่น• แพ้ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และยังช่วยลดอาการหอบหืด ไอ
  • ช่วยตอบสนองความต้องการในการใช้พลังงานของกล้ามเนื้อในการทำงานอย่างเร่งด่วนทันทีทันใด สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานอย่างรวดเร็วและรุนแรง เช่น นักกีฬาในระหว่างการแข่งขัน
  • ยับยั้งการหลั่งสาร Serotonin บรรเทาอาการปวดศีรษะจากไมเกรน นอนไม่หลับ
  • เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยภาวะการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่สูงเกินไป (Hyperthyroidism)
  • ปรับสภาพผิวทางลัด ลด และยับยั้งการสร้างเม็ดสี
  • ช่วยระบบเผาผลาญ ให้ได้รับสารอาหารในสัดส่วนที่สมบูรณ์มากขึ้น
  • ช่วยลดการอักเสบต่างๆ และช่วยการฟื้นตัวของผู้ป่วยระยะพักฟื้น

ประโยชน์ขนาดนี้รับรองบอกลาอาการอ่อนเพลียได้แน่นอน อยากบอกลาอาการอ่อนเพลีย ปรึกษาสอบถามได้ที่ MW Wellness …


NEWS

สมัครรับข่าวสารต่างๆ

phone line chat_facebook