เช็กเป็น รู้ก่อน โอกาสรอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง สูง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง จำแนกออกเป็นสองชนิดใหญ่ๆ ได้แก่
1 มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin disease) ซึ่งพบได้มากในวัยผู้ใหญ่
2 มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin disease) ซึ่งพบมากในช่วงอายุ 10-35 ปี และในช่วง อายุ 60 ปีขึ้นไป
อาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะแรกๆ
- อาจคลำได้ก้อนโตที่ใดที่หนึ่งของร่างกาย เช่น คอ ขาหนีบ ร่องเหนือกระดูกไหปลาร้า โดยไม่มีอาการเจ็บปวด
- ก้อนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะมีลักษณะคลำได้หยุ่นๆ คล้ายยางลบดินสอ สามารถกลิ้งไปกลิ้งมาได้เล็กน้อย โดยมีขนาดที่แตกต่างกันไป
- มีไข้บ่อย อุณหภูมิร่างกายสูงต่ำสลับกัน
- เหงื่อออกได้ โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- เบื่ออาหาร กินได้น้อยลง น้ำหนักตัวลด
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- หายใจไม่สะดวก ไอเรื้อรัง
- มีอาการคันเรื้อรังตามร่างกาย โดยไม่ทราบสาเหตุ
- ปวดหัวเรื้อรัง
- อาจตรวจพบต่อมทอนซิลโตโดยบังเอิญ
- มีภาวะติดเชื้อง่าย
- มีจุดเลือดออกตามตัว หรือพบจ้ำเลือดที่ผิวหนัง
แต่อย่างไรก็ดี การคลำพบก้อนเนื้อในร่างกายอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป อาจเป็นแค่อาการอักเสบธรรมดา หรือเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง แต่ทว่าหากเราไม่ได้เอะใจในความผิดปกติของร่างกาย จนปล่อยให้มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ อาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะมีระยะต่างๆ ดังนี้
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 1
จะพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพียงตำแหน่งเดียว โดยมากพบบริเวณลำคอด้านซ้าย หรือบริเวณรักแร้ด้านขวาบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งอาการในระยะแรก ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกเจ็บ หรืออาจเป็นก้อนที่กดแล้วเจ็บก็ได้ ร่วมกับมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2
ระยะนี้จะพบต่อมน้ำเหลืองโต 2 ตำแหน่งขึ้นไป โดยระยะที่ 2 นี้ หากเกิดในส่วนของช่องท้อง จะมีอาการแน่นท้อง ทานอาหารได้น้อย เบื่ออาหาร ท้องโตขึ้นจากการมีน้ำในช่องท้อง และหากเซลล์มะเร็งเกิดในบริเวณทรวงอก ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก มีอาการปวดบวมที่แขนข้างซ้าย หรือมีอาการเลือดคลั่งบริเวณคอ แขน หน้าอกเป็นจ้ำแดง
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 3
ระยะนี้เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายมายังส่วนเหนือและส่วนใต้ของกระบังลม มีอาการต่อมน้ำเหลืองโตที่รักแร้ ร่วมกับขาหนีบ ช่วงนี้ส่วนมากผู้ป่วยจะมีอาการไข้ อ่อนเพลียร่วมด้วย
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4
เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย อาการของผู้ป่วยค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายออกนอกระบบน้ำเหลือง ลุกลามมาที่ไขกระดูก หรืออวัยวะอื่นๆ หากเซลล์ลุกลามไปจุดใด ก็จะมีอาการอักเสบเกิดขึ้น ณ จุดนั้น อย่างไรก็ดีอาการมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะแรกๆ มักไม่ค่อยแสดงอาการให้เราสังเกตเห็นได้ เพราะอาการมักจะเหมือนเจ็บป่วยทั่วไป ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในความผิดปกติของร่างกายให้มากขึ้น เพื่อความไม่ประมาทในโรคภัย
