การล้างพิษตับ
"การล้างพิษตับ"
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้ดีกว่าอวัยวะอื่น ตัวมันเองต้องทำหน้าที่ต่อสู้กับสารพิษต่างๆที่เรารับมาในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น สารพิษที่ปนเปื้อนมากับอาหาร ยารักษาโรค มลพิษในสิ่งแวดล้อม ฉะนั้น จึงมีกระบวนการช่วยเหลือที่เรียกว่า "กระบวนการล้างพิษตับ (Liver detoxification)" กำจัดของเสีย สารพิษที่สะสมอยู่ในตับ เพื่อช่วยให้ตับฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น และเป็นวิธีการนำสารพิษออกมาด้วยวิธีที่ปลอดภัยและควรทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยทุก 6 เดือนหรือปีละ 1 ครั้ง (สำหรับบุคคลทั่วไป)
การล้างพิษตับคืออะไร
การล้างพิษตับ คือ การขับสารพิษและอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งตกค้างที่สะสมในร่างกาย พร้อมกับการฟื้นฟูการทำงานของร่างกายเพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างสมบูรณ์ เพราะการที่เรามีสารพิษในร่างกายนั้นส่งผลทำให้เราเจ็บป่วย เมื่อร่างกายได้รับสารพิษหรือการสะสมของเสียต่างๆ ไว้เป็นเวลานาน ร่างกายจะสูญเสียความสามารถในการกำจัดสารพิษหรือของเสียออกจากร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ อ่อนแอ จึงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าระบบการทำงานของร่างกายสามารถกำจัดสารพิษที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้อย่างคล่องตัว
ประโยชน์ของการล้างพิษตับ
1.ซ่อมแซมเซลล์ บำรุงเซลล์ตับให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
2.เสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกาย
3.ลดการสะสมของไขมันที่ตับ และลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด
4.ช่วยทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกจากของเสีย กากอาหาร รวมทั้งสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้
5.ป้องกันตับจากสารพิษ ยา และสารจากแอลกอฮอล์
6.ช่วยลดขนาดของนิ่วในถุงน้ำดี
การเตรียมตัวก่อนล้างพิษตับ
ผู้เข้ารับบริการเข้าพบแพทย์เพื่อพูดคุย ซักประวัติ และจะมีการตรวจเลือดเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย โดยไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหาร และแนะนำให้มีการล้างสารพิษในหลอดเลือด (chelation) และล้างสารพิษในลำไส้ (colon hydrotherapy) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ากระบวนการล้างพิษตับ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ขั้นตอนการล้างพิษตับ
วันที่ 1
- ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว และทำดีท็อกซ์
- ออกกำลังกายตามที่ตนเองชอบหรือถนัด
- นวดเดรนน้ำเหลือง(Lymphatic Drainage Massage)
- การให้วิตามินและเกลือแร่ทางหลอดเลือด(Myers Cocktail)
- ดื่มน้ำเปล่าระหว่างวัน
- เวลาหิวให้ดื่มน้ำ ดังต่อไปนี้ น้ำแอปเปิล วันละ 1,500 ml (มื้อละ 500 ml), น้ำเอ็มไซม์ 30 ml + น้ำเปล่า 200 ml
- ตอนกลางคืน ทานยาชำระเมือกมัน 2 เม็ด ก่อนนอน
- ตอนกลางคืน ดื่มน้ำ แอปเปิล ที่ทางคลินิกเตรียมไว้
วันที่ 2
- นวดเดรนน้ำเหลือง(Lymphatic Drainage Massage)
- สวนล้างลำไส้ใหญ่(Colon Hydrotherapy)
- การให้วิตามินและเกลือแร่ทางหลอดเลือด(Myers Cocktail)
- เวลาหิวให้ดื่มน้ำ ดังต่อไปนี้ น้ำแอปเปิล วันละ 1,500 ml (มื้อละ 500 ml),น้ำเอ็มไซม์ 30 ml + น้ำเปล่า 200 ml.
- ตอนกลางคืน ทานยาชำระเมือกมัน 2 เม็ด ก่อนนอน , น้ำส้ม 50 ml + น้ำมะนาว 50 ml. , น้ำมันมะกอก 60 ml- ดื่มน้ำมันมะกอก,น้ำมะนาว+น้ำส้มคั้น 1 แก้ว (ผสมด้วยกันดื่มทันที ) จากนั้นกลั้วปากดีเกลือที่ผสมน้ำอุ่นแล้วบ้วนทิ้ง
วันที่ 3
- สวนล้างลำไส้ใหญ่(Colon Hydrotherapy)
- ทานสลัด 1 มื้อ
- ระหว่างวันดื่มน้ำแอปเปิล น้ำเอ็นไซม์ และน้ำเปล่า เมื่อเสร็จจากการล้างลำไส้ สามารถรับประทานทานสลัดที่ทางคลินิกเตรียมไว้ได้ในทันที
หลังกระบวนการล้างพิษตับ
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องมีการปรับการรับประทานอาหาร โดยการรับประทานอาหารที่ช่วยให้ตับล้างพิษได้ง่ายขึ้น อาทิ
1. ผัก ได้แก่ กระเทียม หัวหอม มะนาว ผักใบเขียว ดอกกะหล่ำ และกะหล่ำปลี เพราะจะทำให้สารพิษที่เจือปนมากับอาหารอื่นนั้นมีสภาพเป็นกลาง และช่วยทำความสะอาดกระเพาะอาหาร และลำไส้
2. ผลไม้ ควรเลือกทานผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น องุ่น ส้ม แคนตาลูป มะละกอ พรุน ลูกเกด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จะช่วยปกป้องตับจากสารอนุมูลอิสระที่จะมีปริมาณสูงขึ้นในกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย
3. วิตามิน ควรทานอาหารที่มี “วิตามินบีสูง” เช่น ข้าวซ้อมมือ ธัญพืชไม่ขัดสี และทานผลไม้ที่มี “วิตามินซีสูง” ด้วย อย่างผลไม้รสเปรี้ยว และผักใบเขียว
4.แร่ธาตุ ควรทานอาหารที่มี “เลซิติน” พบมากในไข่แดง ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก และควรทานอาหารที่มี “สังกะสี” เช่น ถั่วขาว เนื้อไก่ และหอยนางรม จะช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น
การรับประทานอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ตับของเราทำงานง่ายขึ้น เนื่องจากอาหารประเภทผัก ผลไม้ วิตามินและแร่ธาตุจะช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระ และสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับที่ถูกทำลายจากเชื้อไวรัสตับอักเสบ และช่วยสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาได้
นอกจากนี้ควรควบคุมการรับประทาน ซึ่งจะเห็นว่า การจะกำจัดของเสียสารพิษในตับ จำเป็นต้องบูรณาการหลายๆทาง ซึ่งการล้างพิษตับ เป็นหนึ่งในทางเลือกในการขจัดของเสียสะสมและฟื้นฟูตับได้เร็วขึ้น
