สาเหตุคือ “ผื่นคันในกลุ่มนี้เป็นผลจากโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) ซึ่งมีสาเหตุมาจากกระบวนการทำปฏิกิริยาเองภายในร่างกาย หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นผื่นคันที่มีอยู่ในตัวทุกคน แล้วเห่อขึ้นเองโดยไม่มีที่มาที่ไป แต่จะเป็นเฉพาะบางคนเท่านั้น เช่น ผื่นรังแค ภูมิแพ้ผิวหนัง
ลักษณะอาการผื่นคันจากโรคผิวหนังอักเสบที่พบมากในกลุ่มนี้ ยกตัวอย่างเช่น
ผื่นรังแค (seborrheic dermatitis)
หรือเรียกว่า โรคเซ็บเดิร์ม เป็นโรคในกลุ่มเดียวกับรังแค มักเป็นมากเป็นพิเศษตรงบริเวณที่เป็นสิวหรือมีต่อมไขมันมาก
วิธีสังเกตอาการ
– เป็นผื่นตุ่มแดง แห้งคัน ผิวลอกเป็นขุยหรือสะเก็ดคล้ายรังแค แสดงอาการเฉพาะจุด บริเวณหนังศีรษะ หว่างคิ้วเหนือคิ้ว ขอบตา ข้างจมูก หน้าและหลังหู เป็นต้น
– หน้ามัน เป็นสิว
– ผื่นมักเห่อเมื่อเกิดความเครียด อากาศแห้ง สัมผัสแสงแดดหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
– เป็นโรคพาร์กินสัน หรือติดเชื้อเอชไอวี
ผื่นแพ้สัมผัส (contact dermatitis)
สาเหตุคือ“การจะเกิดผื่นแพ้สัมผัสได้นั้น เราต้องสัมผัสสารชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นประจำ มาเป็นเวลานานหรือในปริมาณเข้มข้นสูงจนกระทั่งร่างกายแสดงปฏิกิริยาต่อต้านออกมา ประกอบกับถ้ามีแผลบริเวณผิวหนัง ก็จะยิ่งทำให้สารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารเคมีในเครื่องสำอาง เช่น น้ำหอม น้ำยาย้อมผม ลิปสติก ครีมบำรุงผิว สารเคมีประเภททำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาขัดห้องน้ำ หากร่างกายแพ้สารชนิดใด โดยมากมักจะแพ้ไปตลอดชีวิต จึงต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสให้ดี”
วิธีสังเกตอาการ
– ผื่นแพ้สัมผัสเฉียบพลัน รุนแรงมากที่สุด เป็นผื่นตุ่มน้ำใสมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มค่อนข้างมาก คันมาก
– ผื่นแพ้สัมผัสปานกลาง เป็นผื่นตุ่มแดง แห้ง คัน ผิวลอกเป็นขุย
– ผื่นแพ้สัมผัสเรื้อรัง เป็นผื่นหนาและแข็ง เห็นลายเส้นผิวหนังชัดเจน คันเนื่องจากปล่อยให้เป็นผื่นมานานโดยไม่รักษาให้หายขาด
สาเหตุคือ“กลากเป็นผื่นคันเกิดจากติดเชื้อราจากคนหรือสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีขนเยอะอย่างแมว กระต่าย หรือจากดิน
“กลากติดต่อได้จากการคลุกคลีกัน เช่น การสวมรองเท้าของคนเป็นโรคกลากที่เท้า การคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อรา ซึ่งกลากที่ติดจากสัตว์จะทำให้เกิดอาการผื่นคันอักเสบค่อนข้างมากกว่ากลุ่มอื่น”
วิธีสังเกตอาการ
– เป็นผื่นตุ่มแดงกระจุกตัวเป็นวงกลม แล้วค่อยๆ ขยายวงกว้าง มีขุยสีขาว คันมาก
– ขอบผื่นนูนกว่าบริเวณผื่นตรงกลางอย่างชัดเจน และมีตุ่มน้ำใสเล็กๆ หรือขุยขาวๆ กระจายอยู่
– มักขึ้นบริเวณที่อับชื้น เช่น ลำตัว ซอกข้อพับ ง่ามนิ้ว ก้น อวัยวะเพศ หนังศีรษะ เป็นต้น
– ลุกลามจากที่หนึ่งไปยังที่อื่นๆ ในร่างกาย
สาเหตุคือ“ลมพิษเป็นผื่นคันอีกหนึ่งชนิดที่เกิดจากการแพ้ มีลักษณะเฉพาะตัวเด่นมาก โดยเมื่อร่างกายได้รับสารที่กระตุ้นการแพ้ เช่น ยา อาหาร สารที่ผสมในอาหารละอองเกสร ฯลฯ จะหลั่งสารฮิสตามีน (histamine) ออกมา
“หากสารคั่งอยู่บริเวณใดเป็นพิเศษ จะก่อให้เกิดเป็นผื่นลมพิษขึ้นตรงนั้นอย่างฉับพลัน”
วิธีสังเกตอาการ
– ผื่นเป็นปื้นนูนแดง บวมปูด คันมาก
– ผื่นเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปทั่วร่างกาย เช่น แขน ขา ลำตัว ปาก ตา
– เป็นผื่นตามรอยขูดขีดบนผิว
– บริเวณผื่นมีอาการร้อน
– ผื่นหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง (สำหรับหนึ่งผื่น) แต่อาจทยอยขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ
ผู้ที่มีอาการคันเรื้อรังร้อยละ 10 – 15 เป็นผลมาจากโรคที่ซ่อนอยู่ “ผื่นคันบางอย่างเป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเรื้อรังที่มีผลข้างเคียงทำให้ภูมิต้านทานต่ำ บางโรคทำให้เกิดผื่นคันอย่างเห็นได้ชัด ที่พบบ่อยได้แก่ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)”
วิธีสังเกตอาการ
– เป็นผื่นแดงบนใบหน้า ลำตัว แขน ขา หรือทั้งตัว อาจมีสะเก็ดบางหรือหนา คัน
– ผื่นจะยิ่งแดงมากขึ้นเมื่อถูกแสงแดด
– มีอาการจ้ำเลือด ปวดบวมตามข้อหรือปลายนิ้ว อ่อนเพลียหรือมีไข้ร่วมด้วย
MW-Wellness
205 29-30 ถ. รัชดาภิเษก แขวงดินแดง
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
02-276-5093, 02-276-5076
clinic.mw@gmail.com
Opening Hours :
Mon - Sun 10:00 - 19:00Mon - Sun 10:00 - 19:00
Social Media :