ระวัง! เครื่องดื่มไม่มีน้ำตาล อาจทำให้อ้วนมากกว่าเดิม
แม้ว่าเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่รักสุขภาพก็ตามที แต่ในขณะเดียวกัน น้ำประเภทดังกล่าวก็อาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคอย่างไม่รู้ตัว นั่นอาจทำให้ได้โทษมากกว่าที่จะได้คุณประโยชน์ด้วยซ้ำ
โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ได้เปิดเผยว่า ในช่วงอากาศร้อนขึ้นทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มักเลือกเครื่องดื่มที่มีรสหวาน และน้ำอัดลม เพื่อดับกระหาย ซึ่งในน้ำอัดลมนั้นจะมีส่วนประกอบของน้ำ น้ำตาล สารปรุงสี กลิ่นสังเคราะห์ และกรดฟอสฟอริกที่ทำให้น้ำอัดลมมีฟอง มีรสซ่า และมีกาเฟอีนที่เพิ่มความตื่นตัวให้แก่ร่างกาย และลดอาการอ่อนเพลีย และถ้าดื่มน้ำหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงในปริมาณที่มากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายเผาผลาญและนำไปใช้ได้ไม่หมดซึ่งจะเป็นปัจจัยในเรื่องอ้วนได้
ส่วนเครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาลนั้นก็จะมีส่วนประกอบเหมือนน้ำอัดลมสูตรปกติ แต่จะใช้สารให้ความหวานหรือน้ำตาลทดแทนลงไป สารประเภทนี้ให้รสหวานแต่ไม่ให้พลังงาน และสารดังกล่าวนี้จะกระตุ้นกลไกการทำงานของสมองให้รับรู้ถึงความหวาน ส่งผลให้ร่างกายโหยหาน้ำตาลมากขึ้นจนทำให้เกิดอาการต้องการกินอาหารหรือเครื่องดื่มรสหวานบ่อยขึ้น ร่างกายหิวง่ายขึ้นและกินมากขึ้นกว่าปกติ 30% ซึ่งเกิดจากการกินแบบไม่รู้ตัว
ซึ่ง ดร.แพทย์หญิงสายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ ได้กล่าวเสริมในกรณีดังกล่าวด้วยว่า เมื่อมีการดื่มน้ำอัดลมสูตรที่ใส่น้ำตาลเทียมร่วมกับอาหารจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลและอินซูลีนในเลือดขึ้นสูงกว่าการกินอาหารกับน้ำเปล่า แม้ว่าน้ำตาลชนิดนี้จะไม่ใช่น้ำตาล แต่ก็ส่งผลกระตุ้นการตอบสนองของอินซูลินในร่างกาย แถมยังมีการหลอกลิ้นว่าหวาน แต่สมองที่ต้องการน้ำตาลจริงๆ ไม่ได้ความหวานที่ต้องการก็เกิดการกระตุ้นทำให้อยากกินน้ำตาลมากๆ เพื่อชดเชยการอยากในภายหลังซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนนั่นเอง
ขณะเดียวกัน แม้น้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล โดยผ่านการน้ำตาลเทียมทดแทนลงไป แต่สิ่งที่ยังมีอยู่ก็คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเครื่องดื่มชนิดนี้ ที่ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียดได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น ถ้าอยากดับกระหายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานให้น้อยลง หรือสั่งหวานน้อยเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย เพื่อสร้างความเคยชินในการรับรสของตนเอง และเลือกดื่มไม่เกิน 1-2 แก้วต่อวัน นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยลดเสี่ยงโรคอ้วนได้ในระยะยาวเช่นเดียวกัน
ที่มา : MGR Online
