เลือกกินช็อกโกแลตอย่างไรให้ได้สุขภาพดี
ช็อกโกแลตจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณโกโก้ เพราะโกโก้ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เรามีสุขภาพดี เพราะในโกโก้นั้นอุดมด้วยสาร “ฟลาโวนอยด์” ที่ช่วยบำรุงหลอดเลือดในร่างกายให้แข็งแรง
ผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร American College of Cardiology (JACC) เผยว่า สารฟลาโวนอยด์มีผลต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของเราโดยจะช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนโลหิตในหลอดเลือด กระตุ้นสร้างเซลล์เส้นเลือดใหม่ และมีคุณสมบัติชะลอความเสื่อมของเซลล์
เลือกกินช็อกโกแลตอย่างไรให้ได้สุขภาพ
หลักง่ายๆ ในการกินช็อกโกแลตให้ดีต่อสุขภาพ คือ ให้ดูปริมาณโกโก้เป็นหลัก ถ้าเป็นดาร์กช็อกโกแลตได้ยิ่งดี เพราะดาร์กช็อกโกแลตส่วนใหญ่นั้นทำมาจากโกโก้แท้ มีรสขมนำ และมีปริมาณน้ำตาล ไขมันน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ก็ควรกินดาร์กช็อกโกแลตในปริมาณที่พอเหมาะ คือ ประมาณ 198 กรัมต่อสัปดาห์ หรือประมาณวันละ 28 กรัม
ข้อดีของดาร์กช็อกโกแลตที่มีต่อสุขภาพ
- บำรุงหัวใจ
จากผลการวิจัยของประเทศสวีเดนเผยว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจได้สูงถึงร้อยละ 44 ทั้งนี้เพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลต จะช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวที่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบตัน
- ช่วยให้ความจำดีขึ้น
ดาร์กช็อกโกแลตเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ช่วยในเรื่องของความจำ
- ป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2
สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตช่วยยับยั้งการกระตุ้นการสร้างอินซูลินในร่างกายได้ และยังช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ได้
- ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
ดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เช่น ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง และชะลอกระบวนการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เป็นต้น
- ลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
ดาร์กช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มีความหวานต่ำ เพราะมีสารคาเฟอีนที่ให้รสขมที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน(Theobromine) อยู่ในปริมาณสูง ดังนั้น กินแล้วจึงไม่ต้องห่วงว่าฟันจะผุจากการสะสมของแบคทีเรีย
- บำรุงเลือด
ดาร์กช็อกโกแลตอุมดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม สังกะสี แมกนีเซีย และธาตุเหล็ก ซึ่งช่วยบำรุงเลือดให้เกิดการไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้เราห่างไกลจาก โรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดน้ำหนัก
จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เผยว่า รสขมของดาร์กช็อกโกแลตช่วยยับยั้งความอยากอาหารได้ดี โดยเฉพาะ อาหารที่มีรสหวาน รสเค็ม และมีไขมันสูง ซึ่งการกินดาร์กช็อกโกแลตขนาดแค่เหรียญบาทเป็นประจำทุกวัน ก็สามารถช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักตัวได้ง่ายขึ้น
- ดีต่อทารกในครรภ์
หญิงตั้งครรภ์ที่ทานดาร์กช็อกโกแลตเป็นประจำมีแนวโน้มว่าทารกที่คลอดออกมาจะเป็นเด็กอารมณ์ดี ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่สมองของคุณแม่หลั่งสารเคมีเฟนิลเอธิลลามีน (Phenylethylamine) ออกมาขณะทานดาร์กช็อกโกแลต ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี ซึ่งความรู้สึกนี้ก็จะถ่ายทอดสู่ทารกในครรภ์ นอกจากนี้ ผลการวิจัยของประเทศฟินแลนด์ เผยว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ทาน ดาร์กช็อกโกแลตมากกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์นั้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดครรภ์เป็นพิษถึงร้อยละ 69
- ทำให้อารมณ์ดีขึ้น
ในขณะที่เรากำลังกินดาร์กช็อกโกแลตนั้น สมองของเราจะหลั่งสารแห่งความสุข หรือสารเอ็นดอร์ฟิออกมาด้วย ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
- ปกป้องผิวจากแสงแดด
ผลการวิจัยจากประเทศอังกฤษ และเยอรมนี เผยตรงกันว่า สารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตนั้นมีคุณสมบัติปกป้องเซลล์ผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีได้ โดยจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น จึงช่วยป้องกันเซลล์ผิว
- แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอขึ้น
จากผลการวิจัยเผยว่า การทานดาร์กช็อกโกแลตนั้นสามารถบรรเทาอาการคันคอ และอาการไอได้ สาเหตุมาจากสารคาเฟอีนในโกโก้ที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน (Theobromine) มีคุณสมบัติทำให้ชุ่มคอ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับตัวยาโคดีอีน (codeine) หรือยาแก้ไอ
- บรรเทาอาการท้องเสีย
ในศตวรรษที่ 16 ในทวีปยุโรป และอเมริกาใต้มีการนำช็อกโกแลตมาใช้บรรเทาอาการท้องเสีย เนื่องจากสารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลตจะจับตัวกับโปรตีนในร่างกาย เพื่อปรับสมดุลการขับถ่ายของเราให้ดีขึ้น
- บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิง (PMS)
การทานดาร์กช็อกโกแลตจะช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาปรับสมดุลอารมณ์ และยังช่วยลดอาการบวมน้ำในร่างกาย
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ใน ดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต เพราะดาร์กช็อกโกแลตมีกรด โอเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อร่างกาย
