คอลลาเจนผง แหล่งสะสมโลหะหนัก
ปัจจุบันมีความนิยมในการทานคอลลาเจนผง ตามเหล่าซุปตาร์ทั้งหลายกันมาก ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อของสรรพคุณต่างๆ อย่างเช่น “นวัตกรรมใหม่ล่าสุด สวยใสไม่ต้องฉีด ด้วยคอลลาเจนเปปไทด์แท้ เพียงแค่คุณชงดื่ม รสชาติเหมือนน้ำผลไม้ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีหน้าขาวใส ภายใน 7 วัน”
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ และนพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Skeyndor Clinic มีความเห็นตรงกันว่า การดื่ม “คอลลาเจนผง” เพื่อให้ผิวขาว ไม่เป็นความจริง เพราะจากการวิจัยพบว่า การที่จะนำคอลลาเจนมาใช้ ต้องผ่านการฉีด หรือการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ผลักดันไอออนให้นำคลอลาเจนส่งผ่านเข้าไปในร่างกาย หรือการร้อยไหม และการยิงเลซอร์ เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนตื่นตัว
แต่การใช้คอลลาเจนกับแต่ละบุคคลจำเป็นต้องมีการตรวจเช็กให้แน่ใจก่อนว่าเป็นคนที่แพ้โปรตีนหรืออาหารทะเลหรือไม่ หากพบว่ามีอาการแพ้ ก็ไม่สามารถใช้คลอลาเจนได้
นพ.กฤษดา ได้อธิบายว่า คอลลาเจนก็คือส่วนต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่เส้นผมผม เล็บ กล้ามเนื้อ เนื้อ หนัง ล้วนแต่เป็นคอลลาเจนด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นคอลลาเจนก็คือ เนื้อตัวเรา แล้วโปรตีนที่อยู่ในสัตว์อื่นๆ ทั้งหลาย แต่ที่นิยมกันในเวลานี้คือ การสกัดคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งมักจะโฆษณากันว่า คอลลาเจนผงจากปลาทะเลน้ำลึก หรือไม่ก็คอลลาเจนจากหอยมุก คอลลาเจนบริสุทธิ์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นว่าเป็นของที่หายาก ส่วนใหญ่โฆษณาเน้นหนักว่าเป็นคอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึก บรรยายสรรพคุณต่างๆ นาๆ แต่ไม่ได้บอกถึงข้อเสียที่จะตามมาแต่อย่างใด
อันตรายจากการทานคอลลาเจน
– เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่ถ้าพบคนที่มีอาการแพ้มากจะเกิดอาการบวม แน่นหน้าอก จนถึงขั้นหายใจไม่ออกได้เลย ดังนั้น คนที่แพ้อาหารทะเล จึงไม่สามารถใช้คอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกได้
– คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกมักจะมีสารปนเปื้อนจำพวกพวกโลหะหนักที่ติดมาจากทะเลน้ำลึก ได้แก่ พวกตะกั่ว ปรอท เป็นต้น
แม้ในบุคคลที่ไม่เกิดอาการแพ้ ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย หากกินทุกวันไตจะทำงานหนัก จนถึงขั้นไตวายได้ นพ.ปิยะวงศ์ ได้อธิบายว่า การกินคลอลาเจนระยะยาว มีสิทธิ์ไตพัง ด้วยสาเหตุที่ว่าการกินให้ขาวไม่เพียงแต่คอลลาเจนเท่านั้น แต่มีการผสมสารกลูตาไธโอนเข้าไปด้วย ทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างมาก เพราะกลูต้าไธโอน ก็คือสารปรอทดีๆ นี่เอง ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้ขาว แต่ขาวได้ในเวลาอันสั้น แต่ในระยะยาวนั้น จะทำให้ตับ และไตเราพังได้ หากกินติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือเกินกว่านั้น อาจเกิดภาวะไตวายได้
อาการข้างเคียงของการกินคอลลาเจนผง มีอาการหน้ามืด อาการวูบ และความดันลด ลุกขึ้นมาวิงเวียนศีรษะ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ คอลลาเจนผงพวกนี้ส่วนมากจะผสมคาเฟอีน กับน้ำตาลฟรุกโตส เพื่อให้คนที่ดื่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ร่างกายไม่อ่อนเพลีย จึงไม่รู้สึกถึงผลที่จะตามมาอีกด้วย
หากต้องการทานคอลลาเจน แนะนำให้กินคอลลาเจนจากธรรมชาติ เช่น การกินปลานึ่งมะนาว ซึ่งจะได้ทั้งคอลลาเจน และวิตามินซี แต่ถ้าเป็นคอลลาเจนผง จะได้คอลลาเจนไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่จะได้สารตะกั่ว และสารปรอท มาเป็นของแทน
