ผื่น คันตามผิวหนัง หรือบางคนมี ผื่น ขึ้นตามตัวแต่ไม่คัน หรือเป็น ผื่น คันแล้วมีไข้ร่วมด้วย ผื่นเหล่านี้สามารถบอกโรคได้นะคะ เพราะแค่ผื่นเม็ดเล็ก ๆ เพียงไม่กี่เม็ดก็เป็นสัญญาณอันตรายแล้ว
ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเป็นโรคที่ระบาดหนักมากในหน้าฝน และเป็นโรคติดต่อที่ควรระวังให้ดีด้วยนะคะ ซึ่งผื่นที่บ่งชี้ว่าเกิดจากโรคไข้เลือดออกจะสามารถสังเกตได้ว่ามีความคล้าย ผื่น คันจากยุงกัด แต่ ผื่น นี้มักจะกระจายอยู่ทั่วตัว และจะสังเกตได้ว่า ถ้าเป็นไข้เลือดออกผู้ป่วยจะมีไข้สูง แต่ไม่มีอาการไอหรือน้ำมูกไหล และจุดเลือดออกของโรคไข้เลือดออกจะไม่รู้สึกสากมือเหมือนโรคหัด และเวลากดดึงผิวหนังให้ตึงผื่นก็จะไม่จางหายไปเหมือนผื่นที่ถูกยุงกัดทั่วไป ซึ่งถ้ามีอาการตามนี้ร่วมกับมีไข้สูงตลอดเวลา ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน
โรคหัด
สำหรับคนที่มีอาการไข้มาสักระยะ ร่วมกับอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หน้าแดง ตาแดง ไม่สู้แสง แล้วอีก 3-4 วัน จึงสังเกตเห็น ผื่น สีน้ำตาลแดงนูนเล็กน้อยขึ้นตามตัว โดยผื่นจะเริ่มขึ้นที่ศีรษะก่อนจะลามมาตามใบหน้า และต่อมาก็มี ผื่น ขึ้นที่แขนและขา ลามไปทั่วตัวตามลำดับ โดย ผื่น เหล่านี้อาจมีอาการคันเล็กน้อย จับแล้วจะรู้สึกสากมือ นอกจากนี้ หากมีจุดสีขาว ๆ เหลือง ๆ เล็กขนาดเม็ดงาที่กระพุ้งแก้มใกล้ฟันกรามล่าง ให้สงสัยถึงโรคหัดไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะอาการนี่เป๊ะเลย ซึ่งโรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก แต่ก็สามารถรักษาให้หายได้ตามอาการ
โรคหัดเยอรมัน
โรคหัดกับหัดเยอรมันไม่ใช่โรคเดียวกันนะคะ แต่ต่างกันทั้งสายพันธุ์ไวรัสที่ก่อให้เกิดอาการ รวมไปถึงลักษณะของ ผื่น ที่ขึ้นตามตัวด้วย ซึ่ง ผื่น ของหัดเยอรมันจะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีชมพู จะเริ่มเป็น ผื่น ขึ้นบนใบหน้าก่อน จากนั้นจึงลามไปยังลำตัว และแขน ซึ่งอาการ ผื่น ขึ้นตามตัวจะเกิดหลังจากมีไข้ต่ำ ๆ มาแล้ว 2-3 วัน ร่วมกับมีอาการปวดหัว คลำพบก้อนที่หลังหู และท้ายทอย ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต ตาแดง ปวดตามข้อ ที่สำคัญ ผื่น ของโรคหัดเยอรมันจะเกิดน้อยกว่า และหายเร็วกว่า ผื่น ของโรคหัดด้วย โดยอาจจะเป็นเพราะว่าเชื้อที่ทำให้เป็นโรคหัดเยอรมัน (Rubella) เป็นเชื้อไวรัสที่มีความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อไวรัสอันเป็นสาเหตุของโรคหัดนั่นเอง ส่วนการรักษาโรคหัดเยอรมันโดยมากจะเป็นการรักษาตามอาการ และรอให้ตัวโรคหายเอง เพระโรคนี้อาการไม่รุนแรง และสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโรคหัด หรือโรคหัดเยอรมัน ก็จัดเป็นโรคติดต่อที่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งตามพื้นผิว และนำไปป้ายถูกที่เนื้อเยื่ออ่อนตามปาก จมูก ตา และบางส่วนติดต่อได้ผ่านทางการไอ จาม ดังนั้นนอกจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันแล้ว อีกแนวทางป้องกันโรคที่ทำได้ง่าย ๆ ก็คือการหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร และพยายามอย่าใช้มือล้วง แคะ แกะ เกา อวัยวะบนใบหน้า
อีสุกอีใส
หากผื่นที่ขึ้นตามตัวมีลักษณะเป็นตุ่มนูนใส มีอาการคัน มีไข้ร่วมด้วย และพอเริ่มมีไข้ก็จะมีตุ่มนูนใสลามไปทั่วตัว โดย ผื่น คันที่เกิดในช่วงแรกเริ่มแห้ง และตกสะเก็ด ส่วน ผื่น คันที่ขึ้นใหม่เป็นผื่นปื้นแดง หรือตุ่มใส บ่งชี้ได้ว่า ผื่น คันดังกล่าวอาจเกิดจากโรคอีสุกอีใส ซึ่งมีต้นเหตุมาจากไวรัสวาริเซลลา (Varicella virus) หรือ Human herpes virus type 3 และโรคอีสุกอิใสก็เป็นโรคติดต่อด้วยนะคะ โดยจะติดต่อผ่านการสัมผัสถูกตุ่มน้ำโดยตรง หรือการไอ จาม รดกัน ก็ติดโรคได้เช่นกัน
ทว่าโรคนี้ไม่อันตรายร้ายแรงเท่าไร และสามารถหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ หากไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ดังนั้นผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสจึงควรพักผ่อน และดื่มน้ำมาก ๆ ถ้ามีไข้สูงใช้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ได้ แต่ไม่ควรใช้แอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดอาการทางสมองและตับ จนทำให้ถึงตายได้ นอกจากนี้ก็ควรอาบน้ำ และใช้สบู่ฟอกผิวหนังให้สะอาด พร้อมกับควรตัดเล็บให้สั้น และหลีกเลี่ยงการแกะเกา ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อด้วย
โรคสะเก็ดเงิน
หลายคนไม่รู้ว่า ผื่น เล็ก ๆ ที่ขึ้นตามผิวหนังบริเวณศอก เข่า แขน ขา ศีรษะ เป็นผื่นจากโรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่พบได้บ่อย โดย ผื่น ของโรคสะเก็ดเงินจะมีลักษณะเป็นผื่นสีแดงมีขอบชัด บนผื่นจะมีขุยสีขาว คล้ายมีสะเก็ดสีขาวเหมือนเงินปกคลุมอยู่ จึงเรียกโรคนี้ว่าโรคสะเก็ดเงินนั่นเอง
ลมพิษ
ในกรณีที่เป็น ผื่น นูนแดงขึ้นเป็นวง หรือเป็น ผื่น นูนแดงรูปร่างต่าง ๆ บนผิวหนัง โดยเป็น ผื่น ที่ขึ้นอย่างเฉียบพลัน เมื่อเกาแล้วก็จะคันมาก และหลังจากเกาจะยิ่งเห็น ผื่น แดงได้ชัดเจน ลักษณะนี้อาจเป็น ผื่น ที่เกิดจากโรคลมพิษได้นะคะ ยิ่งหาก ผื่น เหล่านี้เกิดหลังจากการรับประทานอาหาร เช่น อาหารทะเล อาหารหมักดอง หรือสารที่ผสมในอาหาร เช่น ผงชูรส สารกันบูด สีผสมอาหาร หรือ ผื่น เกิดหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ หลังได้รับยาบางชนิด เช่น เซรุ่ม หรือหลังโดนพิษจากแมลง สัตว์ กัดต่อย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์บางชนิด นุ่น หรือสารเคมีต่าง ๆ โดยที่มีอาการ ผื่น ขึ้นเพียง 3-4 ชั่วโมง และหลังจากนั้น ผื่น คันก็จะหายไปเอง และอาจเกิดผื่นขึ้นอีกเมื่อเจอสารกระตุ้นดังกล่าว
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง
ผื่น ที่ขึ้นจะมีอาการคัน ยิ่งสัมผัสโดนผื่นจะยิ่งคันคะเยอ โดยโรคนี้มักจะเกิดกับคนที่มีผิวแห้ง หรือผิวแห้งมาก และอาการ ผื่น คันจะเป็นเรื้อรัง ซึ่ง ผื่น คันมักจะเกิดบริเวณข้อพับต่าง ๆ เช่น แขนและขาทั้ง 2 ข้าง หรือถ้าหากเป็นมากก็อาจจะลามไปทั่วร่างกายได้
ทั้งนี้หากมีอาการแพ้แบบเฉียบพลันก็จะมีรอยเห่อแดง และคัน อาจมีตุ่มน้ำใส ๆ เล็ก ๆ มีน้ำเหลืองซึมเยิ้มออกมาจากผิวตุ่มเหล่านั้น รวมทั้งอาจมีอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังร่วมด้วย นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมี ผื่น แบบเรื้อรังเป็นปื้นนูน ผิวหนังเป็นขุยแห้ง หรือตกสะเก็ดซึ่งเกิดจากการเกาด้วย
โรคภูมิแพ้อาหาร
โรคภูมิแพ้อาหารเป็นโรคที่พบเห็นได้บ่อย ซึ่งมีอาการหลาย ๆ อย่างร่วมกัน ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้องบิด มี ผื่น ขึ้นตามผิวหนัง ริมฝีปาก ลิ้นและช่องปากบวม หายใจลำบาก บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดอาการช็อก ทั้งนี้อาการสามารถเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน หรือเกิดหลังจากรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไปแล้วหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน ส่วนอาหารที่มักก่อให้เกิดอาการแพ้ก็ได้แก่ ไข่ นมวัว อาหารทะเล สารเคมีในอาหาร อาทิ สีผสมอาหาร สารกันบูด ผงชูรส และโปรตีนบางชนิด อย่างโปรตีนกลูเตน เป็นต้น
โรคแพ้เหงื่อตัวเอง
ถ้าสังเกตเห็นว่า ผื่น คันมีลักษณะคล้ายสิวผด และในบางรายอาจมีปื้นแดง ๆ บนผิวหนังร่วมด้วย รวมทั้งอาการ ผื่น คันมักจะเกิดขึ้นหลังมีเหงื่อออก อาจเดาได้ว่าคุณเป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเอง ซึ่ง ผื่น คันจากโรคแพ้เหงื่อตัวเองจะเกิดเฉพาะเวลาที่เหงื่อออก โดยเฉพาะหาก ผื่น คันของคุณมักจะเกิดในบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ข้อพับ ขาหนีบ ลำคอ รอบดวงตา และบริเวณใบหน้า เป็นต้น ทว่าโรคนี้อาการไม่น่าห่วงเท่าไรค่ะ เพราะ ผื่น คันจะหายไปได้เองหลังจากอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาดแล้ว ยกเว้นใครมีอาการแพ้เหงื่อรุนแรงมาก ตุ่มคันคล้ายสิวมีอาการอักเสบ เคสนี้ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อค้นหาสาเหตุของความผิดปกติโดยด่วน
โรคแพ้จากการสัมผัส (Contact dermatitis)
ชื่อโรคก็บอกชัด ๆ ว่าแพ้จากการสัมผัส ซึ่งก็หมายความว่า ผื่น คันหรืออาจเป็น ผื่น ชนิดไม่คัน จะเกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสสิ่งของ สาร หรือตัวกระตุ้นชนิดต่าง ๆ ทว่าโรคนี้ไม่ได้เกิดกับทุกคนเสมอไป แต่จะเป็นเฉพาะคนที่ขาดภูมิต้านทานสารกระตุ้นชนิดนั้น ๆ จึงก่อให้เกิดอาการ ผื่น แพ้ขึ้นมาได้ โดยจุดสังเกตถึงโรคนี้ก็จะเห็นได้ว่า ผื่น แพ้จะขึ้นเฉพาะบริเวณผิวที่สัมผัสกับสารกระตุ้น ไม่ได้เกิดทั่วทั้งตัวเหมือนโรคลมพิษ เช่น หากแพ้น้ำยาล้างจาน ผื่น ก็จะขึ้นที่มือ แพ้น้ำยาซักชุดชั้นใน ผื่น อาจจะขึ้นตามหน้าขา หว่างขา หน้าอก หรือบางคนแพ้สี แขนไปโดนสี ผื่น ก็จะขึ้นที่แขน หากแพ้สายนาฬิกาที่สวมใส่ ผื่น ก็ขึ้นตรงข้อมือ เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมีผื่นขึ้นเป็นจำนวนมากผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ และบอกอาการที่มาที่ไปของผื่นให้ชัดเจน เพื่อที่แพทย์จะได้วินิจฉัยให้อย่างถูกต้อง
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
MW-Wellness
205 29-30 ถ. รัชดาภิเษก แขวงดินแดง
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
02-276-5093, 02-276-5076
clinic.mw@gmail.com
Opening Hours :
Mon - Sun 10:00 - 19:00Mon - Sun 10:00 - 19:00
Social Media :