ขจัดพิษและโลหะหนักในเลือดสำหรับผู้ป่วย โรคเบาหวาน
คีเลชั่นบำบัด คือ การรักษาทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้อง กับ การบริหาร สารคีเลชั่น เพื่อกำจัดโลหะหนัก และ สารพิษออกจากร่างกาย แต่การขจัดพิษและโลหะหนักในเลือดก็สามารถช่วยผู้ป่วย โรคเบาหวาน ได้เช่นกัน
โรคเบาหวาน เป็นโรคเมตาบอลิซึม เรื้อรัง ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นผล มาจาก การผลิตอินซูลิน ไม่เพียงพอ หรือ การใช้อินซูลิน ไม่ได้ผล อาจทำให้ เกิดภาวะแทรกซ้อน ต่างๆ รวมถึงโรคหัวใจ และ หลอดเลือด ไตเสียหาย และ เส้นประสาท ถูกทำลาย การจัดการ โรคเบาหวานแบบดั้งเดิม เกี่ยวข้อง กับ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การใช้ยารับประทาน และ การรักษา ด้วยอินซูลิน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วย โรคเบาหวาน บางคน อาจแสวงหา การรักษา ทางเลือก หรือ การรักษาเสริม เพื่อยกระดับ ความเป็นอยู่ โดยรวม
คีเลชั่นบำบัด เกี่ยวข้อง กับการ ใช้สารคีเลต เช่น กรดเอทิลีนไดอามีนเตตระอะซีติก ( EDTA ) เพื่อจับกับโลหะหนัก และ กำจัดออกจากร่างกาย สารคีเลต เหล่านี้ พบว่า มีผลเพิ่มเติม นอกเหนือจากการล้างพิษโลหะหนัก รวมถึง ประโยชน์ ที่เป็นไปได้ สำหรับ โรคเบาหวาน ต่อไปนี้ เป็นประโยชน์ บางประการ ของคีเลชั่นบำบัด สำหรับ โรคเบาหวาน
1. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ : สารคีเลต มีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่ง สามารถ ช่วยลดความเครียด จากอนุมูลอิสระ และ การอักเสบ ในร่างกาย ความเครียด ออกซิเดชัน มีบทบาท ในการพัฒนา และ ความก้าวหน้า ของ โรคเบาหวาน และ ภาวะแทรกซ้อน โดย การลดความเครียด จากปฏิกิริยาออกซิเดชัน การทำคีเลชั่นบำบัด อาจช่วยป้องกัน ความเสียหาย ของเซลล์ และ ปรับปรุง การควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด โดยรวม
2. การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น : การบำบัดด้วย คีเลชั่น ได้รับการแสดง เพื่อปรับปรุง การไหลเวียน ของเลือด โดยการกำจัด แคลเซียม ที่สะสม ออกจากหลอดเลือด ซึ่งจะเป็น ประโยชน์ อย่างยิ่ง สำหรับ ผู้ที่เป็นเบาหวาน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต่อภาวะแทรกซ้อน ของ หลอดเลือด และ หัวใจ การไหลเวียน ของเลือดที่ดีขึ้น สามารถ เพิ่มออกซิเจน ในเนื้อเยื่อ และ การจัดส่ง สารอาหาร ส่งเสริมสุขภาพ โดยรวม และ อาจลดความเสี่ยง ของ ภาวะแทรกซ้อน จากโรคเบาหวาน
3. ความไว ของ อินซูลินที่เพิ่มขึ้น : การศึกษาบางชิ้น แนะนำว่า การบำบัดด้วยคีเลชั่น อาจช่วยเพิ่ม ความไวของอินซูลิน ทำให้เซลล์ สามารถ ใช้อินซูลิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น ภาวะดื้อต่ออินซูลิน เป็นจุดเด่น ของ โรคเบาหวานประเภท 2 และ การแทรกแซงใด ๆ ที่สามารถ เพิ่มความไว ของ อินซูลิน อาจส่งผลดี ต่อ การควบคุม ระดับน้ำตาล ในเลือด
4. การอักเสบที่ลดลง : การอักเสบ เรื้อรัง มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และ อาจทำให้เกิด การดื้อต่ออินซูลิน และ ภาวะแทรกซ้อนได้ คีเลชั่นบำบัด แสดงให้เห็นว่า มีฤทธิ์ต้าน การอักเสบ ซึ่งอาจช่วย บรรเทาการตอบสนอง ต่อ การอักเสบ ที่เกี่ยวข้อง กับ โรคเบาหวาน
แม้ว่า จะมี หลักฐานใหม่ ๆ ที่บ่งชี้ถึง ประโยชน์ที่เป็นไปได้ ของ คีเลชั่นบำบัด สำหรับ โรคเบาหวาน สิ่งสำคัญ คือ ต้องทราบว่า จำเป็นต้องมี การวิจัยเพิ่มเติม เพื่อสร้างประสิทธิภาพ และ ความปลอดภัย การศึกษาที่มีอยู่ เกี่ยวกับคีเลชั่นบำบัด สำหรับ โรคเบาหวาน มีขนาดจำกัด และ ให้ผลลัพธ์ ที่หลากหลาย การทดลองทางคลินิกที่ใหญ่ขึ้น และ ออกแบบมาอย่างดี มีความจำเป็น ในการพิจารณา ประสิทธิภาพ และ ผลกระทบ ระยะยาว ของ คีเลชั่นบำบัด ในการจัดการ โรคเบาหวาน
สิ่งสำคัญ คือ ต้องพิจารณาถึง ความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้น และ ผลข้างเคียง ของ คีเลชั่นบำบัด สารคีเลต อาจมีผลเสีย รวมถึง ทำลายไต และ แร่ธาตุไม่สมดุล ดังนั้น การทำคีเลชั่นบำบัด จึงควรดำเนิน การโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่มี คุณสมบัติ เหมาะสมเท่านั้น ในสภาพแวดล้อมที่มี การควบคุมและตรวจสอบ
การทำคีเลชั่นบำบัด ถือเป็นการรักษา เสริมที่มีศักยภาพ สำหรับ โรคเบาหวาน อาจมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นอินซูลิน และ ต้านการอักเสบ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อหาประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และ ประโยชน์ระยะยาว สำหรับ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน จำเป็น ต้องปรึกษากับบุคลากรทางการแพทย์ ก่อนที่จะพิจารณา ให้คีเลชั่น บำบัด เป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดการโรคเบาหวานอย่างครอบคลุม และ หากใคร กำลังมองหา ที่ทำคีเลชั่นบำบัด ดีๆสักที่ เราขอแนะนำที่ mw-wellness
อ่านบทความเพิ่มเติม :
โรคภัย ต่างๆ ที่คุณควรระวังใน ฤดูฝน
เลือกอาหารที่ใช่ ให้เหมาะกับ โรคเบาหวาน
