ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดวงตา เป็นอวัยวะสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ถูกใช้งานมากที่สุด เพราะตั้งแต่ตื่นนอน ดวงตาของคุณก็เริ่มทำงาน วันๆ หนึ่ง คุณต้องใช้สายตา เพื่อมอง ดู และเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรียน ทำงาน อ่านหนังสือ ดูละคร หรือ ดูซีรี่ย์ เรื่องโปรด
ดวงตา ของคุณ เริ่มทำงาน หนักขึ้นๆ ซึ่งทำให้ เกิดอาการข้างเคียง ที่คุณ ไม่ควรมองข้าม เพราะดวงตา เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมากของมนุษย์ ในการติดต่อสื่อสารกับผู้คน และสิ่งแวดล้อม ทำให้เราได้เพลิดเพลิน กับความบันเทิงต่างๆ รวมถึง การศึกษาหาความรู้ และ ยิ่งยุคสมัยนี้ การเข้าถึงเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสารต่างๆ ก็ง่ายมากขึ้น โดยผ่าน คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่ง โทรศัพท์ ที่เกือบจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่ง ของมนุษย์ไปแล้ว
ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือ โทรศัพท์ เป็นประจำ จะมีปัญหาเรื่องปวดเมื่อยล้าตา แสบเคืองตา หรือตาแห้ง จากอาการตาล้า ( Asthenopia ) ได้ ดังนั้นเราควรต้องมี วิธีรับมือ และแก้ปัญหา อาการตาล้า ( Asthenopia ) ดังนี้
1. ควรพักสายตา โดยทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องมองใกล้ (1-2 ฟุต) ประมาณ 5-10 นาที ต่อการทำกิจกรรมกับคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือ โทรศัพท์ 1 ชั่วโมง เพื่อลดเวลาต่อเนื่องของการเพ่งของสายตา จะได้ช่วยคลายการปวดเมื่อยล้าตาได้
2. ด้านหลังจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือ โทรศัพท์ ไม่ควรมีแสงสว่างมากเกินไป เพราะจะรบกวนการมอง ทำให้ต้องดวงตาเพ่งเล็งมากขึ้น เช่น ไม่ควรตรงกับหน้าต่าง ที่มีแสงสว่างเข้ามา
3. ถ้ามีอาการตาแห้ง เช่น แสบเคืองตา ให้กระพริบตา ให้บ่อยขึ้น เพื่อกวาดน้ำตามาเคลือบผิวตา หรือ พักการใช้คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรือ โทรศัพท์ เป็นระยะ ถ้ายังมีอาการมาก การใช้น้ำตาเทียมหยอดตา จะช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้
4. อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับ เรื่องของสายตา ที่เป็นสาเหตุ ทำให้ปวดเมื่อยล้าตาง่าย เช่น คนสายตาเอียง หรือ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไป ซึ่งจะมีปัญหาเวลามองใกล้ ซึ่งการใส่แว่นตาจะช่วยแก้ปัญหาได้
นอกจาก วิธีรับมือ และแก้ปัญหาแล้ว อาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา ก็สำคัญเหมือนกัน เช่น
1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ( Berry ) เช่น แบล็กเบอร์รี่ ( Blackberry ), บลูเบอร์รี่ ( Blueberry ), ราสเบอร์รี่ ( Raspberry ), สตรอว์เบอร์รี่ ( Strawberry ), แครนเบอร์รี่ ( Cranberry ), กูสเบอร์รี่ ( Gooseberry ) เป็นต้น เนื่องจาก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ( Berry ) เป็นสุดยอดผลไม้ บำรุงสายตา เพราะอุดมไปด้วย วิตามิน ซี ( Vitamin C ),วิตามิน เอ ( Vitamin A ) และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) มีส่วนช่วยในการมองเห็น ป้องกันเซลล์ดวงตาถูกทำลาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด โรคจอประสาทตาเสื่อม และ ต้อกระจก
2. ผักใบเขียว ( Green vegetable ) เช่น ผักบุ้ง, ผักกวางตุ้ง, ผักคะน้า, ผักตำลึง และผักอื่นๆ อีกหลายชนิด ในผักใบเขียว ( Green vegetable ) อุดมไปด้วยสารลูทีน ( Lutein ) และซีแซนทีน ( Zeaxanthin ) ซึ่งเป็น สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ( Antioxidant ) ที่มีประสิทธิภาพสูง และยังมีวิตามิน เอ ( Vitamin A ) ซึ่งเป็นหนึ่งใน วิตามินบำรุงสายตาชั้นเลิศ ช่วยป้องกันเซลล์ในตาเสื่อม และป้องกันโรคต้อชนิดต่างๆ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เราควรหันมาดูแล และใส่ใจ ดวงตา กันมากกว่านี้ อย่าให้อวัยวะสำคัญอย่าง ดวงตา ต้องได้รับความเสียหายจะดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้น เราอาจจะต้องเสียใจภายหลัง ที่ไม่ดูแลอวัยวะอย่าง ดวงตา ที่สำคัญเช่นนี้
อ่านบทความเพิ่มเติม
MW-Wellness
205 29-30 ถ. รัชดาภิเษก แขวงดินแดง
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
02-276-5093, 02-276-5076
clinic.mw@gmail.com
Opening Hours :
Mon - Sun 10:00 - 19:00Mon - Sun 10:00 - 19:00
Social Media :