ปวดหลัง สัญญาณเตือนโรค
ร่างกายคนเรา มักมีการเตือนอาการเสี่ยงโรคต่าง ๆ อยู่เสมอ จากการให้รู้สึกเจ็บปวดบริเวรต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งอาการที่รู้สึกอาจไม่ได้ร้ายแรงมาก ทำให้บางคน ละเลยอาการที่เกิดขึ้นได้ จนลุกลามเป็นโรคที่ร้ายแรง
อาการปวดหลัง ถือว่าเป็นอาการที่สามารถพบได้ ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ชาย หญิง เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ สูง ต่ำ ดำ ขาว ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้น มีหลายปัจจัยมากที่ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งอาการปวดหลังจะส่งผลหลาย ๆ ด้าน เช่น เกิดปัญหากล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ข้อต่อกระดูกสันหลังอักเสบ หมอนรองกระดูกสันหลังอักเสบ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น
อาการ ปวดหลัง เกิดจาก
อาการ ปวดหลัง สามารถบอกถึงโรคต่าง ๆ เช่น
ปวดหลังแค่ไหน ควรไปปรึกษาแพทย์
โรคที่กล่าวมาข้างต้นที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอาการปวดในระดับเดียวกัน บางคนอาจปวดมาก ปวดน้อย แล้วแต่ร่างกายของบุคคลนั้น ๆ ไม่ควรละเลย ปล่อยให้ความเจ็บปวดอยู่กับเรานาน จำเป็นต้องสังเกตตัวเราเองว่ามีความเจ็บอยู่ในระดับใด โดยระดับความเจ็บปวดจากอาการปวดหลังนั้น เริ่มตั้งแต่ไม่รุนแรง เช่น ปวดเมื่อยตามตัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไปถึงขั้นรุนแรงจนส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น อาการปวดร้าวลงขา ปวดคล้ายเข็มทิ่ม หรือปวดแบบเสียวแปลบ ที่สำคัญ คือ หากมีอาการปวดนานเรื้อรัง มีอ่อนแรงหรือชา มีไข้ ปวดกลางคืนนอนพักไม่หาย มีปัญหาขับถ่ายผิดปกติร่วม ควรรีบปรึกษาแพทย์ อาจมีการสั่งตรวจเพิ่มเพื่อหาสาเหตุ และอาการของโรคที่แน่ชัด ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ในปัจจุบัน อาทิเช่น
รักษา อาการปวดหลัง
เมื่อเรารู้อาการปวดหลังแล้ว ขั้นตอนต่อไปคงหนีไม่พ้นการรรักษา ซึ่งการรักษาเบื้องต้นสำหรับอาการปวดก่อน เช่น การทานยาแก้ปวด หรือยาคลายกล้ามเนื้อ หรือการทำกายภาพบำบัด แต่ถ้าอาการปวดเพิ่มมากขึ้น จนไม่สามรถใช้ชีวิตประจำวันได้ อาทิ การลุก ยืน นั่ง นอน เดินลำบาก แล้ว ต้องมีการรักษาที่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจมีการฉีดยาเข้าเส้นประสาทสันหลัง หรือการผ่าตัดแบบแผลเล็ก หลังจากการผ่าตัดต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1 – 3 วัน ซึ่งควรได้รับคำแนะนำจากทีมแพทย์ที่ชำนาญโดยเฉพาะเท่านั้น
อาการปวดหลังเราทุกคนสามารถป้องกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ช่เรื่องยาก เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายเรา เช่น การยก หรือแบกของหนัก ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับรูปร่างของเรา เพราะแม้ว่าปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปไกลแล้วก็ตาม แต่ถ้าเราไม่ดูแลตัวเองให้ดี ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายเราได้
การรักษาอาการปวดหลัง 2 วิธี
การรักษา โดยไม่ต้องผ่าตัด
การรักษาแบบไม่ผ่าตัด คงเป็นการรักษาที่ทุกคนต่างต้องการ เพราะเสียค่าใช้จ่ายน้อย ประหยัด แถมไม่ต้องเสียเวลานอนโรงพยาบาลนาน ๆ อีกด้วย เป็นการรักษาแบบประคับประคอง คือ การรับประทานยา การทำกายภาพบำบัด การนอนพักผ่อน เป็นวิธีที่ใช้เริ่มต้น สำหรับการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยหายแบบค่อยเป็น ค่อยไป
แต่ในบางคน การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงกระดูกสันหลัง ก็เป็นการแก้อาการปวดหลังได้เช่นกัน โดยจะช่วยลดความปวดจากการอักเสบ และช่วยในการวินิจฉัยตำแหน่ง ที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดได้ การรักษาวิธีนี้ จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาแบบประคับประคองแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการปวดจากการที่เส้นประสาทโดนรบกวน วิธีนี้จึงเป็นวิธีการขั้นต่อไป สำหรับผู้ปวย ถือว่ายังมีราคาที่ประหยัด และ เสียเวลาน้อยอยู่
การรักษา โดยการผ่าตัด
วิธีการนี้ เป็นวิธีขั้นสุดท้ายแล้ว ถ้าแก้ไขด้วยข้อข้างต้นไม่ได้ แพทย์จะใช้วิธีการรักษานี้ เพื่อให้ผู้ป่วยหาย โดยผู้ป่วยที่ใช้วิธีนี้ มักมีอาการที่รุนแรงมาก เช่น ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ขาอ่อนแรง เดินไม่ได้ หรือรักษาด้วยวิธีอื่น แล้วไม่ได้ผล การรักษาด้วยวิธีผ่าตัด จึ่งเข้ามาช่วย แต่การผ่าตัดก็มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย หรืออาการที่เกิดขึ้นต่าง ๆ
อ่านบทความเพิ่มเติม
MW-Wellness
205 29-30 ถ. รัชดาภิเษก แขวงดินแดง
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
02-276-5093, 02-276-5076
clinic.mw@gmail.com
Opening Hours :
Mon - Sun 10:00 - 19:00Mon - Sun 10:00 - 19:00
Social Media :