MWWellness ภัยเงียบจาก อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

ศูนย์ดูแลสุขภาพ และล้างพิษครบวงจร ภัยเงียบจาก อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

MWWellness ใครที่ชอบทานของดิบ หรือ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เป็นประจำ ด้วยเนื้อสัมผัส และรสชาติอาหารที่แตกต่างจากอาหารสุก เราอยากให้คุณได้อ่านบทความนี้ค่ะ

ภัยเงียบจาก อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

ภัยเงียบจาก อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ


ถ้าใครที่ชอบทานของดิบ หรือ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เป็นประจำ ด้วยเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง รสชาติที่หาไม่ได้ในอาหารที่สุกเกินไป ย่อมเย้ายวนให้ตักอาหารเข้าปากได้อยู่บ่อย ๆ หากคุณเป็นคนนั้นเราอยากให้คุณได้อ่านบทความนี้ค่ะ

 

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักพยาธิกันเป็นอย่างดี แต่อาจจะแค่รู้จักชื่อไม่ได้รู้จักโทษของมันมากนัก ซึ่งโทษของมันจะเกิดขึ้นเมื่อเรารับประทานอาหารที่สุกไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือที่เรียกว่า อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ นั่นเอง เมื่อเรารับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไป พยาธิจะสามารถอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ และทำให้คุณป่วยหนัก เป็นโรคจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

หนึ่งในโรคของพยาธิที่น่ากลัว และสามารถพบได้บ่อยในกลุ่มคนที่ชอบรับประทานของดิบก็คือ พยาธิตัวตืด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพยาธิตัวนี้มันพบในสัตว์ที่กินพืช เช่น แกะ วัว กระบือ หรือพบได้ในสัตว์ที่กินเนื้อ เช่น สุนัข แมว ทั้งนี้ นอกจากจะพบในสัตว์แล้ว พยาธิยังสามารถพบในมนุษย์ได้ด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่าจะพบได้ในคนที่รับประทาน อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือมีพยาธิเหล่านี้ฝังอยู่ในอาหารนั่นเอง

บนโลกนี้ มีคนจำนวนหนึ่งที่ต้องเสียชีวิตเพราะพยาธิ หนึ่งในอาการนี้เคยเกิดขึ้นกับเด็กหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากโรคพยาธิตืดหมูในระบบประสาท แม้ว่าจะเป็นโรคที่พบได้ยากแต่ก็พบได้จริง มีสาเหตุมาจากการรับประทานของดิบแล้วตัวอ่อนของพยาธิตืดหมูเข้าไปฝังตัวในเนื้อเยื่อ เกิดถุงน้ำที่ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เติบโต และกินพื้นที่สมองไปมากกว่าครึ่ง ซึ่งทำให้เด็กน้อยต้องเสียชีวิตในที่สุด

อาการเริ่มต้นของเจ้าวายร้ายตัวนี้อาจจะเป็นเพียงแค่อาการปวดศีรษะ อ่อนเพลียเพียงเท่านั้น อาการที่ไม่รุนแรงทำให้หลายคนมองข้าม แต่อาการเหล่านั้นไม่หายไปอย่างสิ้นเชิง และแฝงตัวในร่างกายต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 1 ปี หลังจากที่พยาธิเริ่มเติบโต และแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในร่างกาย พยาธิจะสามารถทำให้คุณเป็นอัมพาต ทำให้อวัยวะบางส่วนหยุดทำงาน แม้ว่าคุณจะไปรักษาในช่วงเวลาที่ร่างกายทรุดลงแล้ว ก็อาจจะสายเกินไป เพราะพยาธิสามารถชอนไช และลุกลามไปทั่วทั้งร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากพยาธิแล้ว การรับประทานอาหารที่ไม่สุก 100% อาจจะนำพาโรคอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  1. โรคแอนแทรกซ์

ซึ่งเกิดมาจากการที่เรากินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อโรคตัวนี้เข้าไป ทำให้เชื้อโรคไปเกิดอาการในระบบทางเดินอาหาร อาการที่เกิดขึ้นของโรคนี้ ก็คือ การอ้วก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายท้องอย่างรุนแรง หากพัฒนาไปถึงการติดเชื้อในกระแสเลือด ก็ย่อมรุนแรงจนถึงแก่ความตายได้เลย

  1. โรคไข้สมองอักเสบหูดับ

โรคนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณได้รับเชื้อสเตรปโตคอคคัสซูอิส ซึ่งเมื่อเชื้อตัวดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเดินทางไปที่เยื่อหุ้มสมอง และทำให้อวัยวะบริเวณนั้นติดเชื้อ อาการที่เกิดขึ้นก็คือ การมีไข้สูง บางรายจะเกิดอาการเพ้อ สับสน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลาก็จะถึงแก่ความตายได้ อย่างไรก็ตาม ในบางรายที่สามารถรักษาได้ทันเวลาก็อาจจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่จะมีอาการหูหนวกตลอดชีวิต เนื่องมาจากเกิดการอักเสบบริเวณเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินนั่นเอง

  1. โรคพยาธิทริคิโนซีส

พยาธิตัวนี้จะฟักตัวออกมาก่อน จากนั้นจะชอนไชไปตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงทั่วทั้งร่างกาย ร้ายแรงไปกว่านั้น หากเชื้อตัวนี้ลุกลามไปถึงกระบังลม ก็จะมีผลทำให้ร่างกายขาดอากาศหายใจ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเสียชีวิตในที่สุดแน่นอน

  1. โรคติดเชื้อทางเดินอาหาร

ท้องเสีย อาเจียน บางรายถ่ายเป็นเลือด ซึ่งถ้าโชคไม่ดีอาการเป็นเยอะ เชื้อเข้ากระแสเลือดได้ก็ตาย

  1. พยาธิตัวตืด
  2. โรคพิษสุนัขบ้า

หากนำเนื้อวัวควายที่ตายแบบไม่ทราบสาเหตุมากิน แล้วไปเจอวัวควายที่ตายจากโรคพิษสุนัขบ้า ทั้งคนแล่เนื้อ คนทำอาหาร ไปจนถึงคนกินดิบ ๆ อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ได้ ซึ่งถ้าเป็น และมีอาการ ตายลูกเดียว

  1. บรูเซลโลซิส โรคแท้งติดต่อ

เป็นโรคที่สำคัญในสัตว์เพราะทำให้แท้งแบบไม่ทราบเหตุ ในคนพบไม่บ่อยนักแต่เวลาเป็นจะลำบากเพราะอาการจะเป็นไข้ที่หาเหตุไม่เจอ มีไข้ ปวดตามตัว ปวดข้อ น้ำหนักลด เป็นฝีในตับในม้าม คือกว่าจะหาเจอ และรักษาได้ ก็อาจจะต้องนอนป่วยหลายเดือน

 

แต่ถ้าต้องการรับประทานลาบสด หรือลาบเลือดจริง ๆ ก็ต้องเลือกให้แน่ใจว่าต้นทางนั้นไม่มีโรค ซึ่งฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์ต้องทำในระบบปิด มีการให้ยาปฏิชีวนะเป็นระยะ มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค และสัตว์ต้องกินอาหารที่ดี ถึงจะปลอดภัยจริง ๆ ซึ่งเป็นการยากที่จะควบคุมได้ทั้งระบบ ต้องเป็นฟาร์มที่เชื่อถือได้ มีระบบการควบคุมที่เข้มงวด หากเป็นฟาร์มแบบบ้าน ๆ แนะนำให้ทำให้สุกจะปลอดภัยมากกว่าค่ะ

 

สารเคมีที่พบปนเปื้อนในอาหาร

– สารบอแรกซ์ พบมากในอาหารประเภทเนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อวัว ฯลฯ เมื่อใส่สารนี้ไปแล้วจะทำให้อาการมีสีสันที่สวยงาม รสชาติดี และเก็บไว้ได้นาน สารนี้เป็นสารที่ก่อให้เกิด สารไนโตรซามีน ( Nitrosamine ) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

– สารกันรา ( กรดซาลิซิลิค ) พบได้ในอาหารประเภท แหนม หมูยอ และผักผลไม้ดอง เช่น มะม่วงดอง ผักกาดดอง มะกอกดอง มะดันดอง ขิงดอง เป็นต้น หากกินอาหารที่มีสารกันราปนเปื้อนพิษของมันก็จะเข้าไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ทำให้ความดันโลหิตต่ำ เป็นผื่นคันตามตัว อาเจียน หูอื้อ หรือมีไข้

– สารฟอกขาว ( โซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ ) ส่วนใหญ่จะใส่อยู่ในอาหารพวก ดอกไม้จีน เห็ดหูหนูขาว เยื่อไผ่ หน่อไม้ ถั่วงอก แป้ง หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ หากสารชนิดนี้สะสมในร่างกายมาก ๆ จะทำให้หายใจติดขัด ปวดท้อง ท้องร่วง เวียนศีรษะ อาเจียน หรือหมดสติได้

– ฟอร์มาลิน เป็นสารอันตรายที่ถูกนำมาใช้กับอาหารสดไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล เนื้อสัตว์ หรือกระทั่งผัก เพื่อให้มีความสดได้นาน หากถูกปนเปื้อนเข้าไปในร่างกายปริมาณมาก จะทำให้เกิดพิษต่อระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้ปวดหัว ปวดท้อง แน่นหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการเหงื่อออก ร่วมด้วย

– สารตกค้างพวกยาฆ่าแมลง ที่มักตกค้างมากับผัก หรือผลไม้สด ซึ่งสารเหล่านี้มีพิษต่อระบบประสาท ส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ทำให้ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่าย โดยอาการจะรุนแรงมากหากได้รับสารโดยตรง

 

     วิธีสร้างความปลอดภัยง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

– เลือกซื้ออาหารจากแหล่งคุณภาพ และเชื่อถือได้

– แช่ผัก และผลไม้ในสารละลายน้ำส้มสายชู หรือสารละลายด่าง ก่อนนำมาบริโภคทุกครั้ง

– เลือกรับประทานอาหารที่ใช้สีปรุงแต่งจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงอาหารจากสารเคมี

– เลือกซื้อสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหาร และยา เพื่อรับรองคุณภาพความปลอดภัยของอาหาร

 

ไม่น่าเชื่อว่าการรับประทานอาหารดิบ หรือ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ จะมีผลร้ายแรงที่ทำให้อายุสั้นลงได้เลย ดังนั้น  ก่อนที่จะเลือกรับประทานอาหารมื้อต่อไป ต้องสังเกตให้ดีว่าวัตถุดิบอาหารเหล่านั้นควรจะกินสุก หรือดิบมากแค่ไหน เพราะหากอาหารผ่านกระบวนการให้ความร้อนที่น้อยเกินไป หรือมีการปนเปื้อนของเชื้อพยาธิที่อันตรายแล้ว ร่างกายก็ย่อมได้รับมันเข้าไป ซึ่งเราคงไม่รู้ว่ามีตัวร้ายตัวนี้อยู่ในร่างกาย

การรับประทานอาหารประเภทนี้มาก ๆ หรือรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ความน่ากลัวก็จะย่อมเกิดขึ้นมาให้เราเห็นได้ในระยะเวลาที่ไม่นานเกินรอ ต้องเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่วันนี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือ การพยายามแล้วก็ทานอาหารทุกอย่างที่สุก และสะอาด โดยรักษาความสะอาดตั้งแต่วัตถุดิบ ภาชนะ รวมไปถึงมือของเราเองด้วย

หากเราสามารถดูแลความสะอาด หรือควบคุมระดับความสุกของอาหารที่เรารับประทานต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาหารก็จะไม่ทำร้ายเรา และมีแต่คุณประโยชน์ที่เราต้องการได้อย่างแน่นอน

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

โทษของ น้ำอัดลม มีมากกว่าที่คุณคิด

ผลเสียต่อร่างกายจากการ กินดึก


NEWS

สมัครรับข่าวสารต่างๆ

phone line chat_facebook