ตั้งแต่มีโรคระบาดที่ชื่อว่า โควิด 19 นั้น มีจำนวนประชากรในโลกล้มป่วยถึงขั้นเสียชีวิตมากมาย อันเนื่องจากเชื้อ โควิด 19 นั้นลงสู่ปอด ทำให้ปอดอักเสบ ดังนั้น เมื่อรู้ว่าตนเองติดเชื้อ โควิด 19 ควรรีบรักษาทันทีก่อนเชื้อลงปอด
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง 2 ( severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 : SARS-CoV-2 ) หรือชื่อที่องค์การอนามัยโลกเคยใช้คือ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ( 2019-nCoV ) คือ โรคติดต่อทำให้เกิดอาการติดเชื้อผ่านทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด 19 หรือ COVID-19 )
เชื้อไวรัส โควิด 19 แพร่ระบาดโดยวิธีใด ?
เชื้อไวรัส โควิด 19 สามารถแพร่กระจายเชื้อผ่านทางอากาศ ( Airborne ) สิ่งมีชีวิตที่เป็นพาหะเเพร่เชื้อผ่านทางสารคัดหลั่งกระจายออกมาทางปาก หรือเสมหะ เป็นต้น ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงสูดดมละอองเข้าไป อาจจะเป็นละอองฝอยขนาดใหญ่ ( Droplet ) หรืออาจจะเป็นละอองฝอยขนาดเล็ก { <5 ไมครอน ( Aerosal ) } ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อ โควิด 19 ยังสามารถติดเชื้อผ่านทางการสัมผัส เช่น การจับมือกัน หรือใช้ของร่วมกัน แล้วนำมือที่สัมผัสเชื้อไวรัสมาสัมผัสตา หรือจมูก แล้วอาจติดเชื้อได้ เชื้อ โควิด 19 สามารถติดต่อผ่านทางอุจจาระได้อีกด้วย ( ติดต่อผ่านทางละอองฝอยอุจจาระ ควรปิดฝาชักโครกตอนกดชักโครกเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ )
ความรุนแรงของเชื้อไวรัส โควิด 19 เมื่อเทียบกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่น ?
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส โควิด 19 มีอาการคล้ายไข้หวัด อาการทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ ไตวาย หรืออาจเสียชีวิต แม้ว่าอาการหลายอย่างจะคล้ายคลึง แต่เนื่องจากเกิดจากเชื้อไวรัสที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถระบุโรคตามอาการเพียงอย่างเดียว จึงต้องอาศัยการทดสอบทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันเชื้อ
กรณีปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส โควิด 19 เกิดจากการอักเสบในเนื้อปอดส่งผลโดยตรงต่อการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจน ในช่วงแรกผู้ป่วยจะมีอาการปกติแม้จะเกิดการอักเสบในปอด เรียกว่า “ Silent Hypoxemia ” ต่อมาผู้ป่วยจะมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก อาจรุนแรงถึงขั้นหายใจล้มเหลวจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เชื้อไวรัส โควิด 19 เกี่ยวข้องกับปอดอักเสบอย่างไร
เมื่อติดเชื้อ โควิด 19 จะมีผลกับระบบหายใจ เนื่องจากการรับเชื้อในปริมาณมาก จะทำให้มีเชื้อที่ถุงลมปอดทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ เชื้อที่ถุงลมจะทำให้มีการอุดกั้นส่งผลต่อการแลกเปลี่ยน และการลำเลียงออกซิเจนมีปัญหาอาจทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถทำงานได้ ส่งผลให้กระแสเลือด และร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนอย่างที่ควรจะเป็น
ใครบ้างที่เสี่ยงปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส โควิด 19
หากได้รับเชื้อ โควิด 19 แล้วมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือปัจจัยเสี่ยงต่อการทำงานของปอดทำให้ปอดทำงานได้น้อยลง หรือไม่มีประสิทธิภาพอยู่แล้วจะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบ ได้แก่
อาการปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส โควิด 19
ในช่วงแรกจะไม่หอบเหนื่อย อาการจะตามมาในภายหลังทดสอบได้ด้วยการวัดค่าออกซิเจนในเลือด ( SpO2 ) ก่อน และหลังปั่นจักรยานอากาศ หรือเดินข้างเตียง 3 นาที หากพบว่าค่าที่ออกมา drop ตั้งแต่ 3 % ขึ้นไปถือว่าเสี่ยงติดเชื้อ Covid-19
หากสงสัยว่ามีอาการปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส โควิด 19 ควรทำอย่างไร
หากพบว่าตนเองมีอาการตามที่กล่าวไปควรเข้าพบแพทย์ และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้อื่นต้องสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ถ้าหมอวินิจฉัยแล้วพบการอักเสบในปอดจากเชื้อไวรัส โควิด 19 จะต้องรักษาตัวเพื่อรักษาอาการ โควิด 19 ร่วมกับการใช้เครื่องช่วยหายใจหากจำเป็น ในระยะการรักษาต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
วิธีลดความเสี่ยงปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส โควิด 19
การปฏิบัติตัวในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 อย่างถูกต้อง และมีวินัยจะสามารถช่วยลดการแพร่ระบาด และลดความเสี่ยงปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส โควิด 19 ได้เป็นอย่างดี เราทุกคนจะผ่านโรคร้ายนี้ไปด้วยกัน
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
MW-Wellness
205 29-30 ถ. รัชดาภิเษก แขวงดินแดง
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
02-276-5093, 02-276-5076
clinic.mw@gmail.com
Opening Hours :
Mon - Sun 10:00 - 19:00Mon - Sun 10:00 - 19:00
Social Media :