MWWellness ทำอย่างไรให้ สุขภาพ ดี ในที่ทำงาน

ศูนย์ดูแลสุขภาพ และล้างพิษครบวงจร ทำอย่างไรให้ สุขภาพ ดี ในที่ทำงาน

MWWellness ทำงานมาทั้งปีคงจะรู้สึกเหนื่อยล้ามาพอสมควร เพราะฉะนั้น คุณควรหันมาใส่ใจ สุขภาพ ด้วย ถ้า สุขภาพ เราดี จะทำอะไรก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทำให้งานออกมาดีไปด้วย เราจึงนำเคล็ดลับดูแล สุขภาพ มาฝากทุกคนค่ะ

ทำอย่างไรให้ สุขภาพ ดี ในที่ทำงาน

ทำอย่างไรให้ สุขภาพ ดี ในที่ทำงาน


ทำงานมาทั้งปีคงจะรู้สึกเหนื่อยล้ามาพอสมควร เพราะฉะนั้น คุณควรหันมาใส่ใจ สุขภาพ ด้วย ถ้า สุขภาพ เราดี จะทำอะไรก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทำให้งานออกมาดีไปด้วย เราจึงนำเคล็ดลับดูแล สุขภาพ มาฝากทุกคนค่ะ

 

    ในปีหนึ่ง ๆ เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน หาเงิน โดยไม่ได้คำนึงถึงการดูแลรักษา สุขภาพ เท่าที่ควร การออกกำลังกาย และ การกินอาหารที่มีประโยชน์กลับกลายเป็นเรื่องยากสำหรับชีวิตที่รีบเร่ง โดยข้ออ้างยอดนิยม คือ ไม่มีเวลา ทั้งที่การเป็นคนทำงานที่มี สุขภาพ ดีไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไป เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ ต่อไปนี้ แล้วคุณก็จะมี สุขภาพ ดี มีแรงทำงานที่คุณรักไปอีกนาน

 

1. ยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

     สุขภาพ ดีในที่ทำงาน การนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานไม่ส่ง ผลดีต่อ สุขภาพ เอาเสียเลย อาจทำให้คุณปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอว เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ไหนจะรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ที่ เป็นอันตรายต่อดวงตาคุณอีก การยืดเส้นยืดสายทำให้คุณได้เปลี่ยนอิริยาบถ กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด และ ยังช่วยเพิ่มเมตาบอลิซึ่ม ทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารได้ดี ป้องกันโรคอ้วนได้อีกด้วย

 

2. รักษาบุคลิกภาพให้สง่างามอยู่เสมอ

     การดูแลรูปร่างท่าทางให้ดูดีตลอดทั้งวันเป็น เรื่องยากพอดู แต่ก็ต้องพยายามกันหน่อย เพื่อให้คุณมีบุคลิกภาพที่น่ามอง คุณจึงควรปรับท่าทางให้ถูกสุขลักษณะ นั่งหลังตรง พยายามอย่านั่ง ยืน หรือ เดินหลังโกง และ อย่าห่อตัว เพราะจะทำให้คุณปวดหลัง หรือ ปวดหัวได้ การนั่งหลังตรงจะช่วยให้คุณดูดี ดูเป็นมืออาชีพ และ ทำให้คนที่เห็นรู้สึกชื่นชมในบุคลิกภาพของคุณ

 

3. อย่าอายที่จะนำข้าวกล่องมารับประทานในที่ทำงาน

     เพื่อ สุขภาพ ที่ดีคุณอาจนำอาหารมาจากบ้าน ซึ่งคุณจะสามารถหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล และ ไขมันได้  และ ควรเลือกเป็นอาหารประเภทผัก ผลไม้ หรือ ขนมปังกรอบแบบไขมันต่ำแทน

 

4. รักษาความสะอาดในที่ทำงาน

     ดูแลบริเวณโต๊ะทำงาน โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรค และ สัตว์พาหะ เช่น แมลงสาบ และ หนู บุกโต๊ะทำงานของคุณ

 

5. ดื่มน้ำสะอาด

     ถึงแม้ว่าการดื่มกาแฟ หรือ โซดา จะช่วยกระตุ้นให้คุณมีพลังในการทำงาน แต่มันก็ทำให้ร่างกายคุณสูญเสียน้ำ ดังนั้น คุณจึงควรดื่มน้ำให้มากเพื่อให้ร่างกายมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอด หาขวดน้ำมาวางไว้ที่โต๊ะทำงานเสียเลย และ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเพื่อให้ร่างกายสดชื่นเสมอ

 

6. ลด ละ เลิกบุหรี่

     การสูบบุหรี่ก็มีผลต่อประสิทธิภาพ ในการทำงานของคุณ เพราะบุหรี่มีผลต่อ สุขภาพ อย่างแน่นอน สารนิโคตินในบุหรี่เป็นตัวกระตุ้น และ เพิ่มความเครียดให้กับคุณ ดังนั้น หากสามารถเลิกบุหรี่ได้ สุขภาพ ของคุณก็จะดีขึ้น

 

7. ดื่มน้ำแทนกาแฟ

     บางคนเลือกที่จะดื่มกาแฟแทนน้ำ เพราะเชื่อว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน สามารถมีแรงทำงานได้ตลอดทั้งวัน กาแฟถูกเลือกเป็นเครื่องดื่มแก้วแรกของทุกเช้า เมื่อรู้สึกง่วงก็ดื่มกาแฟ คิดอะไรไม่ออกก็ดื่มกาแฟ หรือ ดื่มเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย แต่การดื่มกาแฟในบริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง หรือ แม้แต่ส่งผลกระทบต่อการดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เพื่อ สุขภาพ ที่ดีเราควรต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการดื่มเครื่องดื่มในแต่ละวัน ด้วยการลดการดื่มกาแฟให้น้อยลง หรือไม่ดื่มเลย โดยเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าแทนการดื่มกาแฟ จะช่วยลดการกระหายน้ำ และ ทำให้เราหิวน้อยลงซึ่งเป็นผลดีกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก

 

8. เตรียมของว่างที่ดีต่อ สุขภาพ ไว้ข้างตัว

     คนทำงานหลายคนจะติดอาหารทานเล่น ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว หรือ ผลไม้ต่าง ๆ หากเรามีเวลามากพอในการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ลองพิจารณาคุณค่า และ สารอาหารให้ละเอียดมากพอ เพราะของทานเล่นที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว เนยถั่ว ขนมปังโฮลวีต สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของสิ่งที่เราควรหาไว้ติดตัวเวลาทำงาน เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราอิ่มท้อง ไม่อิ่ม หรือ หิวมากไป และ ยังดีต่อ สุขภาพ ของเราเองด้วย การเลือกของทานเล่นที่ไม่มีประโยชน์ไม่ได้สงวนไว้สำหรับคนที่ลดน้ำหนักเท่านั้น แต่คนทำงานที่ต้องการมี สุขภาพ ดี ก็สามารถนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้ได้ เพื่อให้เราเป็นคนทำงานที่มี สุขภาพ ที่อยู่ตลอดเวลา

 

9. อย่ารวมอาหารเช้ากับอาหารกลางวัน

     บางคนเลือกที่จะอดอาหารเช้า เมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถบริหารเวลาทำงานได้ เช่น บางคนมาสาย จนทำให้ไม่มีเวลาที่จะทานอาหารเช้า เลือกที่จะทานอะไรเพียงเล็กน้อย ด้วยการดื่มกาแฟเพียงหนึ่งแก้ว จากนั้นค่อยรอทานอาหารกลางวันทีเดียว การรวมอาหารเช้าเข้ากับอาหารกลางวัน อาจจะไม่ส่งผลดีต่อ สุขภาพ ของเรามากนัก หากเราขาดสารอาหารที่จะไปหล่อเลี้ยงสมองในเวลาเช้า จะทำให้เราทำงานไม่มีประสิทธิภาพ สมองอาจจะไม่แล่นมากพอที่จะคิดงาน เพราะถึงแม้บางคนจะอ้างว่าเดี๋ยวไปรอทานรวมกับมื้อเที่ยง ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ความจริงแล้วนั่น คือ ปัญหา เพราะกว่าจะถึงเวลาอาหารกลางวัน น้ำย่อยในกระเพาะของเราอาจจะทำงานไปแล้วหลายรอบ ทำให้เราเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะได้ เราควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารในรูปแบบดังกล่าว เพราะอาจส่งผลเสียต่อ สุขภาพ ของเราได้

 

10. ขยับเคลื่อนไหวร่างกาย

     เมื่อต้องการพลังงาน เราก็ควรเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้เปิดรับความสดชื่น ในช่วงเวลาบ่าย ๆ หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน เมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกง่วง ให้ลองลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสาย หรือ ออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ ดู เราจะรู้สึกว่าเรามีแรงมากขึ้น หรือ ถ้าไม่อยากเคลื่อนไหวร่างกายมากเกินไป เราสามารถเปลี่ยนเป็นการเดินทักทายเพื่อนร่วมงาน หรือ เดินไปรับความสดชื่นจากธรรมชาติแทน ไม่เพียงแต่สมองจะปลอดโปร่งขึ้น แต่ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

     เราอยากให้คุณเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสดใส ด้วยการปรับ และ เปลี่ยนนิสัยบางอย่างที่ทำลาย สุขภาพ เพื่อคุณจะได้มีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมลุยงานอย่างเต็มกำลังในปีใหม่ที่มาถึงนี้

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ภัยเงียบ จากการทาน ผักผลไม้ ที่ปนเปื้อนสารตกค้าง

ปรับเปลี่ยน พฤติกรรม ป้องกัน กรดไหลย้อน


NEWS

สมัครรับข่าวสารต่างๆ

phone line chat_facebook