MWWellness ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) การบำบัดแนวใหม่

ศูนย์ดูแลสุขภาพ และล้างพิษครบวงจร ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) การบำบัดแนวใหม่

MWWellness เพื่อน ๆ รู้จักการรักษา และ การบำบัดแนวใหม่ อย่าง ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) กันไหมคะ ได้ยินว่าในต่างประเทศมาแรงมาก ๆ วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ การบำบัด นี้ มาให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษากันแล้วค่ะ ตามมาอ่านบทความนี้กันเลย

ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) การบำบัดแนวใหม่

ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) การบำบัดแนวใหม่


เพื่อน ๆ รู้จักการรักษา และ การบำบัดแนวใหม่ อย่าง ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) กันไหมคะ ได้ยินว่าในต่างประเทศมาแรงมาก ๆ วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ การบำบัด นี้ มาให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษากันแล้วค่ะ ตามมาอ่านบทความนี้กันเลย

 

หลายคนคงเคย ได้ยินคำว่า โอโซน ( Ozone ) ซึ่งส่วนใหญ่จะคุ้นเคย กับโอโซนที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นก๊าซพิษ ถ้าสูดดมเข้าไปจะทำให้เกิดพิษ ต่อระบบทางเดินหายใจได้ แต่การทำ Ozone Therapy หรือ การบำบัดด้วยออกซิเจน เป็นการเติมออกซิเจน ( Oxygen ) ทางหลอดเลือด และไม่มีการสูดดมโอโซน ( Ozone ) เข้าไป จึงไม่เกิดปัญหา ต่อระบบทางเดินหายใจค่ะ  แล้วเรานำโอโซน ( Ozone ) มารักษาได้อย่างไร ? วันนี้เราจะมาอธิบาย ให้ฟังถึง ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) ค่ะ ว่าคืออะไร ? มีข้อดีอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ?

 

                                                   

 

ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) คืออะไร ?

ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) เป็นการเติมออกซิเจน เข้มข้นเข้าหลอดเลือดโดยตรง โดยจะใช้ออกซิเจน ( Oxygen ) ในรูปของโอโซน ( Ozone ) ทางการแพทย์ หรือ O3 ที่สามารถละลาย เข้าไปในเลือดของเราได้ หลังจากเลือดได้รับ การเติมออกซิเจน ( Oxygen ) แล้ว เราก็จะให้กลับเข้าไป ทางหลอดเลือดโดยตรง ทั้งนี้เป็นระบบปิด จึงปราศจากเชื้อ และไม่มีการปนเปื้อน จากสิ่งแวดล้อม ภายนอกเมื่อออกซิเจน ( Oxygen ) ในเลือด และเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น ก็จะให้ประโยชน์กับร่างกาย หลายด้านด้วยกัน ได้แก่

  • ช่วยกำจัดเชื้อไวรัส ( Virus ) แบคทีเรีย ( Bacteria ) ราและโปรโตซัว ( Protozoa ) รวมถึงช่วยกำจัดเซลล์ที่ติดไวรัส และเกิดการสร้างเซลล์ ใหม่มาทดแทน ช่วยให้คนที่รู้สึกเริ่มจะเป็นหวัด หรือเป็นหวัดหายเร็ว การให้เฉพาะที่จะช่วยให้ แผลหายเร็วขึ้นด้วย รวมถึงสามารถใช้โอโซน ( Ozone ) รักษาการติดเชื้อ ในลำไส้ได้ด้วยค่ะ การบำบัดด้วยออกซิเจน ( Ozone Therapy ) จะช่วยเสริมประสิทธิภาพ ให้การรักษาปกติดีขึ้น
  • กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้กำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น โดยการเพิ่มการผลิต Interferon และ Tumor Necrosis Factor ( TNF ) และ Interleukin 2 ซึ่งเป็นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ให้สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
  • เพิ่มพลังงานระดับเซลล์ โดยกระตุ้นกระบวนการ Oxygen Metabolism ทำให้ปริมาณออกซิเจน ( Oxygen ) ในเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น และ กระตุ้นการทำงานของ Krebs Cycle ให้เกิดการสร้าง ATP หรือพลังงานระดับเซลล์ได้ดีขึ้น ช่วยให้เซลล์มีพลังงาน ทำงานได้ดี ร่างกายสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย
  • ช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระ ( Free Radicals ) โดยกระตุ้นการทำงาน ของเอนไซม์ ที่ทำหน้าที่กำจัด สารอนุมูลอิสระ เช่น Glutathione peroxidase, Catalase และ Superoxide dismutase เป็นต้น
  • ช่วยการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด

 

 ใครบ้างที่ควรทำ ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy )

อันที่จริงการทำ ออกซิเจนบำบัด ( Ozone Therapy ) มีความปลอดภัยสูง สามารถทำได้เกือบทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะดังนี้

  • ผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา หรือโปรโตซัว
  • ผู้ที่รู้สึกไม่สบาย เป็นหวัดบ่อย
  • ผู้ที่มีปัญหาระบบ ภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง ( SLE )
  • ผู้ที่อ่อนเพลียเรื้อรัง มีปัญหาขาดพลังงาน
  • ผู้ที่มีปัญหา การไหลเวียนเลือด เช่น  ผู้ที่มีปัญหาหลอดเลือดตีบ อุดตัน ผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ภาวะโลหิตจาง ( Anemia ) มีอันตรายกว่าที่คิด

วิธีการดูแลผิวในช่วงหน้าหนาว


NEWS

สมัครรับข่าวสารต่างๆ

phone line chat_facebook