ดูแล ปกป้องตัวเอง เพื่อบรรเทา อาการจาก โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ ( Allergy ) โรคยอดนิยม ของคนทั่วโลก ดังนั้น การรู้เท่าทัน เกี่ยวกับ โรคนี้ ไม่เพียงจะช่วย ให้สังเกต อาการเบื้องต้นได้ ยังหมายความถึง การดูแล ป้องกันตัวเอง เพื่อบรรเทา อาการ และ หลีกเลี่ยง จากสาเหตุ ที่จะทำให้เกิดได้ อย่างเหมาะสม
โรคภูมิแพ้ ( Allergy ) เป็นโรคที่มีความ ผิดปกติ จากระบบ ภูมิคุ้มกัน โดยที่ร่างกายนั้น จะมีปฏิกิริยา ที่ไวต่อสาร ที่ก่อให้เกิดโรค หรือสารระคายเคือง ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ โรคชนิดนี้ มักไม่ค่อยรุนแรงจนขั้นถึงชีวิต แต่จะส่งผลรบกวน ต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การเรียน หรือการทำงาน ภูมิแพ้เป็นโรคที่พบมาก ในประชากรทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันประเทศไทยนั้นมีจำนวน ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น 3 – 4 เท่า ถ้าหากเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลสถิติของ สมาคมโรคภูมิแพ้ และอิมมูโนวิทยา แห่งประเทศไทย ได้ค้นพบว่า เด็กไทยเป็นโรคภูมิแพ้ สูงถึงร้อยละ 38 และผู้ใหญ่ที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีประมาณร้อยละ 20 โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก....
1) กรรมพันธุ์
2) สภาพมลภาวะ
3) การสูบบุหรี่
4) ขาดการออกกำลังกาย
5) สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ภายในที่พักอาศัย อย่างเช่น เลี้ยงสัตว์ ปูพรม เครื่องปรับอากาศ ที่เป็นแหล่งสะสม ฝุ่นละออง และพวกไรฝุ่นชั้นดี
โรคภูมิแพ้ ( Allergy ) ถือเป็นโรค ที่เกิดจาก การตอบสนอง ของร่างกายที่มีความไว ต่อสารก่อภูมิแพ้ที่มากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดอาการผิดปกติ กับอวัยวะที่ได้สัมผัส โดนสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ แต่ละคนก็จะมีอาการที่แตกต่างกัน และมีความรุนแรงที่ไม่เท่ากัน เพราะว่าชนิดของ สารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับไป และการตอบสนอง ของร่างกาย ในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน
ประเภทของ สารก่อภูมิแพ้ ( Allergen ) มี 2 ประเภทหลัก ได้แก่
1) ประเภทสารก่อภูมิแพ้ ในสิ่งแวดล้อม และในอากาศ อย่าง ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร เชื้อรา ฯลฯ
2) ประเภทสารก่อภูมิแพ้ และประเภทอาหาร อย่าง นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ
อาการของ ผู้ป่วย ที่เป็น โรคภูมิแพ้ ( Allergy ) จะเกิดขึ้นได้ ตามอวัยวะ ที่มีการอักเสบ จากการถูกกระตุ้น ของสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่
1) ผื่นคัน
2) ลมพิษ
3) น้ำมูก
4) จาม
5) คันจมูก
6) คันตา เคืองตา
7) แสบตา น้ำตาไหลบ่อย
8) ไอ
9) หอบ
10) แน่นหน้าอก หายไม่คล่อง
11) หายใจแล้วมีเสียงวี้ด
นอกจากนี้ ยังสามารถเกิด อาการท้องเสีย อาเจียน น้ำหนักลดลง รวมทั้ง มีภาวะซีด เกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นต้องคอยหมั่นสังเกตตัวเอง และพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ โดยละเอียดอีกครั้ง
การปฏิบัติตัว สำหรับ ผู้ที่เป็น โรคภูมิแพ้ ( Allergy )
1) ควรหลีกเลี่ยง การสัมผัสกับสาร หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้
2) ควรดูแลร่างกายให้สดชื่น ให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และควรออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ
3) ควรล้างจมูกด้วย น้ำเกลือเป็นประจำ เมื่อเกิดมีอาการน้ำมูกเรื้อรัง
4) ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ และทานยา ตามที่แพทย์สั่ง และควรพบแพทย์เมื่อ มีอาการแทรกซ้อน ระหว่างการรักษา อย่างเช่น มีไข้ น้ำมูก ไอ มีเสมหะ และหอบ เป็นต้น
ถึงแม้ โรคภูมิแพ้ ( Allergy ) จะถือเป็น โรคเรื้อรัง แต่ถ้าหาก ผู้ป่วย รู้สาเหตุ ของการแพ้ ได้อย่างชัดเจน และพยายามหลีกเลี่ยง ตลอดจนคอยหมั่นดูแล ร่างกายให้มีความแข็งแรง ด้วยการทานอาหาร ที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างดี
อ่านบทความเพิ่มเติม
